พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางไปสหพันธรัฐรัสเซีย วันที่ 17-26 พฤษภาคมนี้ โดยวันที่ 17-18 พฤษภาคม จะเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ ช่วงวันที่ 19-20 พฤษภาคม เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซีย สมัยพิเศษ ที่เมืองโซชิ โดยการเยือนต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีแต่ละครั้ง นายกรัฐมนตรีเคยระบุว่า อยากให้เห็นผลที่เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด โดยให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเตรียมการ และวางแผนการเยือนล่วงหน้า เมื่อกลับมาก็จะเริ่มดำเนินการทันที โดยการเดินทางเยือนรัสเซียครั้งนี้จะมีการลงนาม เช่น บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงเกษตรของสหพันธรัฐรัสเซีย ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร ฯลฯ และเรื่องอื่นๆรวม 15 เรื่อง เป็นเรื่องของภาคเอกชน 9 เรื่อง ภาครัฐ 6 เรื่อง
ด้าน พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม. มีการพูดถึงเรื่องการประชุมรายงานการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศ (UPR) ซึ่งประเทศไทยได้รายงานเรื่องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยไปในสมัยที่ 25 ซึ่งตรงกับวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 ต่อไปคือการประชุมยูพีอาร์รอบที่ 3 จะมีขึ้นในปี 2560-2564 ระหว่างสมัยประชุมที่ 27-44 โดยไทยจะรายงานการประชุมในสมัยที่ 39 ปี 2564 อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้สิ่งที่ไทยได้รับคือการจัดทำแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 3 และความพยายามแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ รวมถึงการคุ้มครองสิทธิสตรี เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการ รวมถึงการใช้นโยบายประกันสุขภาพถ้วนหน้า และการปฏิรูปกฎหมาย และกฎหมายคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่ออกใหม่ ส่วนประเด็นที่เป็นข้อห่วงใยคือการใช้ศาลทหาร ซึ่งนายกฯได้ให้ความชัดเจนไปแล้ว
ด้าน พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม. มีการพูดถึงเรื่องการประชุมรายงานการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศ (UPR) ซึ่งประเทศไทยได้รายงานเรื่องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยไปในสมัยที่ 25 ซึ่งตรงกับวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 ต่อไปคือการประชุมยูพีอาร์รอบที่ 3 จะมีขึ้นในปี 2560-2564 ระหว่างสมัยประชุมที่ 27-44 โดยไทยจะรายงานการประชุมในสมัยที่ 39 ปี 2564 อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้สิ่งที่ไทยได้รับคือการจัดทำแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 3 และความพยายามแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ รวมถึงการคุ้มครองสิทธิสตรี เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการ รวมถึงการใช้นโยบายประกันสุขภาพถ้วนหน้า และการปฏิรูปกฎหมาย และกฎหมายคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่ออกใหม่ ส่วนประเด็นที่เป็นข้อห่วงใยคือการใช้ศาลทหาร ซึ่งนายกฯได้ให้ความชัดเจนไปแล้ว
