สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังคงขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 46.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.ค .เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 48.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจาก IEA ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในไตรมาสแรกปีนี้ขึ้นสู่ระดับ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้นในประเทศจีน อินเดีย และรัสเซีย ส่วนตลอดปี 2559 นั้น คาดว่าอัตราการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะอยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้ IEA ระบุในรายงานภาวะตลาดน้ำมันว่า ภาวะอุปสงค์และอุปทานบ่งชี้ว่าตลาดน้ำมันโลกกำลังปรับตัวไปสู่ระดับดุลยภาพ ขณะที่ปริมาณน้ำมันส่วนเกินในตลาดจะหดตัวลงในปีนี้
นอกจากนี้ IEA ระบุว่า ถึงแม้ปริมาณน้ำมันจากโอเปกเพิ่มสูงขึ้น แต่การผลิตที่ลดลงของประเทศนอกกลุ่มโอเปก และอุปสงคน้ำมันที่เพิ่มขึ้น จะช่วยให้การเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำมันชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะทำให้อุปสงค์, อุปทาน และราคาน้ำมันกลับสู่ภาวะมีเสถียรภาพ
ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากรายงานของ EIA ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 3.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 540 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ การที่บริษัทรอยัล ดัชท์ เชลล์ประกาศปิดท่อส่งน้ำมันในไนจีเรีย และสถานการณ์ไฟป่าในแคนาดา ก็ยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 46.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.ค .เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 48.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจาก IEA ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในไตรมาสแรกปีนี้ขึ้นสู่ระดับ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้นในประเทศจีน อินเดีย และรัสเซีย ส่วนตลอดปี 2559 นั้น คาดว่าอัตราการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะอยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้ IEA ระบุในรายงานภาวะตลาดน้ำมันว่า ภาวะอุปสงค์และอุปทานบ่งชี้ว่าตลาดน้ำมันโลกกำลังปรับตัวไปสู่ระดับดุลยภาพ ขณะที่ปริมาณน้ำมันส่วนเกินในตลาดจะหดตัวลงในปีนี้
นอกจากนี้ IEA ระบุว่า ถึงแม้ปริมาณน้ำมันจากโอเปกเพิ่มสูงขึ้น แต่การผลิตที่ลดลงของประเทศนอกกลุ่มโอเปก และอุปสงคน้ำมันที่เพิ่มขึ้น จะช่วยให้การเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำมันชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะทำให้อุปสงค์, อุปทาน และราคาน้ำมันกลับสู่ภาวะมีเสถียรภาพ
ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากรายงานของ EIA ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 3.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 540 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ การที่บริษัทรอยัล ดัชท์ เชลล์ประกาศปิดท่อส่งน้ำมันในไนจีเรีย และสถานการณ์ไฟป่าในแคนาดา ก็ยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันเช่นกัน