พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง วามคืบหน้าการเหตุการณ์ไฟไหม้ป่า ที่ จ.เชียงใหม่ เเละไฟไหม้ป่าพรุ จ.นราธิวาส ว่า ขณะนี้ให้ทุกหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือทั้ง 2 พื้นที่ รวมทั้งกำชับให้เฝ้าระวังและติดตามความคืบหน้าในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ให้ความช่วยเหลือและดูแลประชาชนแล้ว
ในส่วนป่าพรุได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ และให้สูบน้ำเข้าไปในพื้นที่ที่คิดว่าจะเกิดเปลวไฟขึ้น ขณะนี้ไฟไหม้ป่าที่เชียงใหม่สงบลงแล้ว แต่ยังต้องติดตามผลของซากที่เหลืออยู่ต่อเนื่อง และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสาเหตุของไฟไหม้ป่าแล้ว ว่าเป็นฝีมือผู้ใด ที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลามไปทั่วทั้งป่า หากพบว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการประเมินพบว่า สถานการณ์ไฟป่าในปีนี้ต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระมัดระวังและดูแลเป็นพิเศษ เพราะเกือบทุกพื้นที่แล้งหนักมาก โดยสิ่งที่กระทรวงมหาดไทยได้เตรียมการคือ ต้องเตรียมพร้อม ทั้งกำลังคนและเครื่องมือที่จะรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
ในส่วนป่าพรุได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ และให้สูบน้ำเข้าไปในพื้นที่ที่คิดว่าจะเกิดเปลวไฟขึ้น ขณะนี้ไฟไหม้ป่าที่เชียงใหม่สงบลงแล้ว แต่ยังต้องติดตามผลของซากที่เหลืออยู่ต่อเนื่อง และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสาเหตุของไฟไหม้ป่าแล้ว ว่าเป็นฝีมือผู้ใด ที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลามไปทั่วทั้งป่า หากพบว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการประเมินพบว่า สถานการณ์ไฟป่าในปีนี้ต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระมัดระวังและดูแลเป็นพิเศษ เพราะเกือบทุกพื้นที่แล้งหนักมาก โดยสิ่งที่กระทรวงมหาดไทยได้เตรียมการคือ ต้องเตรียมพร้อม ทั้งกำลังคนและเครื่องมือที่จะรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที