นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ได้กำชับให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งเตรียมความพร้อมรองรับประชาชนที่จะเดินกลับหลังจากท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดฉัตรมงคล และวันพืชมงคลติดต่อกัน 5 วัน โดยใช้มาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยเช่นเดียวกับช่วงเทศกาลปีใหม่ และสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยจัดเตรียมรถโดยสารให้เพียงพอกับความต้องการ ไม่ล่าช้า และไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร และตรวจสอบการให้บริการอย่างเข้มงวด ตรวจสอบความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ ตรวจความพร้อม สารเสพติดและแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถก่อนออกเดินทาง ติดตามพฤติกรรมการขับขี่ของรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ควบคู่กับการตรวจจับความเร็วด้วยกล้องเลเซอร์ของรถตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก บนถนนสายหลักและสายรองอย่างเข้มงวด
สำหรับผลการตรวจจับความเร็วด้วยกล้องเลเซอร์ ระหว่างวันที่ 4-7 พฤษภาคม 2559 ตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะ และรถบรรทุก 14,793 คัน พบฝ่าฝืนใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดรวม 184 คัน เป็นรถตู้โดยสารประจำทาง 41 คัน รถตู้โดยสารไม่ประจำทาง 28 คัน รถโดยสารประจำทาง 19 คัน และรถโดยสารไม่ประจำทาง 17 คัน ส่วนที่เหลือเป็นรถบรรทุกส่วนบุคคล 56 คัน และรถบรรทุกไม่ประจำทาง 23 คัน ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดให้เข้ามารายงานตัว เพื่อชำระค่าปรับตามกฎหมาย และบันทึกประวัติไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะทุกราย ด้านเตือนผู้ประกอบการต้นสังกัดที่ไม่สามารถควบคุมดูแลพนักงานขับรถให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น และอาจถูกพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
สำหรับผลการตรวจจับความเร็วด้วยกล้องเลเซอร์ ระหว่างวันที่ 4-7 พฤษภาคม 2559 ตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะ และรถบรรทุก 14,793 คัน พบฝ่าฝืนใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดรวม 184 คัน เป็นรถตู้โดยสารประจำทาง 41 คัน รถตู้โดยสารไม่ประจำทาง 28 คัน รถโดยสารประจำทาง 19 คัน และรถโดยสารไม่ประจำทาง 17 คัน ส่วนที่เหลือเป็นรถบรรทุกส่วนบุคคล 56 คัน และรถบรรทุกไม่ประจำทาง 23 คัน ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดให้เข้ามารายงานตัว เพื่อชำระค่าปรับตามกฎหมาย และบันทึกประวัติไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะทุกราย ด้านเตือนผู้ประกอบการต้นสังกัดที่ไม่สามารถควบคุมดูแลพนักงานขับรถให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น และอาจถูกพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง