พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าที่ประชุมได้ติดตามการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทุจริตของหน่วยงานต่างๆในสังกัด ศธ. ซึ่งจากเดิมที่มีคดีค้างอยู่ 610 เรื่อง ก็ได้ทยอยพิจารณาไปแล้วกว่า 300 เรื่อง เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ 292 เรื่อง โดยตนได้เร่งรัดให้คณะอนุกรรมการฯและผู้บริหารหน่วยงานต่าง ๆ จัดทำแผนการดำเนินงาน โดยกำหนดระยะเวลาว่าแต่ละคดีต้องแล้วเสร็จเมื่อไร ซึ่งถือมาตรการเร่งรัดการขับเคลื่อนให้เกิดผลในทางปฏิบัติ โดยตนได้ย้ำในที่ประชุม ว่า คณะอนุกรรมการฯ และผู้บริหารหน่วยงานต่าง ๆ ต้องเอาใจใส่ในการจะดำเนินการคลี่คลายแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างจริงจัง เพราะเป็นนโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า ตนได้สอบถามถึงคดีที่เป็นผลกระทบในวงกว้างและอยู่ในความสนใจของสังคม เช่น กรณีสินค้าค้างสต๊อกขององค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) อาทิ ชุดนักเรียน การสั่งซื้อหนังสือจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งมาเก็บไว้ กรณี สกสค.ใช้เงิน 2,500 ล้านบาทซื้อตั๋วสัญญากับบริษัท บิลเลี่ยนอินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำความผิด และแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เป็นต้น ตลอดจนติดตามความคืบหน้าทุจริตโครงการจัดซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู หรือแชร์ลอตเตอรี่ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ใน 11 จังหวัดที่เกิดเหตุมาหลายปีแล้ว โดยมีการรายงานความคืบหน้ามา 8 จังหวัดยังเหลืออีก 3 จังหวัด ซึ่งตนได้ให้คณะอนุกรรมการฯไปติดตามเร่งรัดว่าการรายงานที่ล่าช้าเป็นเหตุจากอะไร และได้สอบถามถึงเรื่องการทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอล วงเงิน 689 ล้านบาท ที่มีปัญหามาตั้งแต่ปี 2555 ในพื้นที่ 21 จังหวัด 400 กว่าโรงเรียน โดยให้คณะอนุกรรมการฯไปตรวจสอบและตอบมาว่าจะชี้มูลความผิดได้เมื่อไร ทั้งนี้ทุกอย่างจะมีการพิจารณาอย่างเป็นธรรมอยู่ในกรอบของระเบียบและกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า ตนได้สอบถามถึงคดีที่เป็นผลกระทบในวงกว้างและอยู่ในความสนใจของสังคม เช่น กรณีสินค้าค้างสต๊อกขององค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) อาทิ ชุดนักเรียน การสั่งซื้อหนังสือจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งมาเก็บไว้ กรณี สกสค.ใช้เงิน 2,500 ล้านบาทซื้อตั๋วสัญญากับบริษัท บิลเลี่ยนอินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำความผิด และแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เป็นต้น ตลอดจนติดตามความคืบหน้าทุจริตโครงการจัดซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู หรือแชร์ลอตเตอรี่ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ใน 11 จังหวัดที่เกิดเหตุมาหลายปีแล้ว โดยมีการรายงานความคืบหน้ามา 8 จังหวัดยังเหลืออีก 3 จังหวัด ซึ่งตนได้ให้คณะอนุกรรมการฯไปติดตามเร่งรัดว่าการรายงานที่ล่าช้าเป็นเหตุจากอะไร และได้สอบถามถึงเรื่องการทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอล วงเงิน 689 ล้านบาท ที่มีปัญหามาตั้งแต่ปี 2555 ในพื้นที่ 21 จังหวัด 400 กว่าโรงเรียน โดยให้คณะอนุกรรมการฯไปตรวจสอบและตอบมาว่าจะชี้มูลความผิดได้เมื่อไร ทั้งนี้ทุกอย่างจะมีการพิจารณาอย่างเป็นธรรมอยู่ในกรอบของระเบียบและกฎหมาย