พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือ รรท.ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคนร้ายชิงทรัพย์หน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 4 เขตประเวศ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า เมื่อประมาณ 22.00 น. วันที่ 25 เม.ย.ศาลจังหวัดพระโขนงได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในคดีนี้แล้ว 1 ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อตามภาพจากกล้องวงจรปิด เลขหมายจับที่ จ.251/2559 ในข้อหาชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด หรือเพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม พาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธติดตัว พาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
สำหรับตำหนิรูปพรรณของคนร้าย สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ยี่ห้อ index เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ ถุงมือสีดำ กางเกงยีนส์ สีซีด (มีรอยขาดบริเวณหัวเข่า) รองเท้าสีดำ (ลักษณะคล้ายรองเท้าหนัง) ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ มีตะกร้า(ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน) พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปหาเบาะแสตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เพื่อบีบวงจำกัดให้แคบลง ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปมาก แต่ยังต้องใช้เวลาอีกระยะจึงจะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนการสอบปากคำพยานมีการเรียกสอบไปแล้วหลายปาก ยังไม่พบว่ามีพนักงานธนาคารรายใดมีพิรุธ และยังต้องรอเรียกสอบปากคำพยานอีกจำนวนหนึ่ง เช่น ลูกค้าธนาคาร ผู้ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่สรุปว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุมีเพียงรายเดียวหรือไม่ เนื่องจากเป็นไปได้ว่าคดีนี้อาจมีผู้ให้ความช่วยเหลือ ดูต้นทางหรือชี้เบาะแสให้ผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุได้ทัน
สำหรับตำหนิรูปพรรณของคนร้าย สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ยี่ห้อ index เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ ถุงมือสีดำ กางเกงยีนส์ สีซีด (มีรอยขาดบริเวณหัวเข่า) รองเท้าสีดำ (ลักษณะคล้ายรองเท้าหนัง) ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ มีตะกร้า(ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน) พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปหาเบาะแสตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เพื่อบีบวงจำกัดให้แคบลง ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปมาก แต่ยังต้องใช้เวลาอีกระยะจึงจะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนการสอบปากคำพยานมีการเรียกสอบไปแล้วหลายปาก ยังไม่พบว่ามีพนักงานธนาคารรายใดมีพิรุธ และยังต้องรอเรียกสอบปากคำพยานอีกจำนวนหนึ่ง เช่น ลูกค้าธนาคาร ผู้ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่สรุปว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุมีเพียงรายเดียวหรือไม่ เนื่องจากเป็นไปได้ว่าคดีนี้อาจมีผู้ให้ความช่วยเหลือ ดูต้นทางหรือชี้เบาะแสให้ผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุได้ทัน
