หลังจากที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดสอบคำให้การนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 20 เมษายน ในคดีความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 จากกรณีที่นายวัฒนา โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัววิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และวิจารณ์การทำงานของ คสช. แต่นายวัฒนา ได้ขอเลื่อนเนื่องจากถูก คสช. ควบคุมตัวที่ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี วันนี้ (25 เม.ย.) นายวัฒนา พร้อมด้วยนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา กรุงเทพใต้ ตามหมายนัดสอบคำให้การ โดยมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาให้กำลังใจด้วย
ทั้งนี้ นายวัฒนา เปิดเผยภายหลังใช้เวลาให้การต่อศาลนานกว่า 2 ชั่วโมง ระบุว่า ในวันนี้ตนเองได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และพร้อมสู้คดี โดยศาลจะนัดตรวจพยานอีกครั้งในวันที่ 13 มิถุนายน เวลา 09.00 น. สำหรับเงื่อนไขในการประกันตัวยังเหมือนเดิมคือห้ามเดินทางไปต่างประเทศ
นอกจากนี้ นายวัฒนา ได้ตั้งข้อสังเกตในเรื่องคดีว่า ตนพยายามยื่นขอความเป็นธรรมต่อศาล เนื่องจากยังไม่มีการสอบสวนใดๆ แต่อัยการก็เร่งดำเนินการฟ้องร้อง ซึ่งตนก็เห็นใจพนักงานอัยการว่าคงถูกกดดันให้เร่งคดี แต่ส่วนตัวยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และยังมั่นใจว่าจะได้ความยุติธรรมจากศาล
อย่างไรก็ตาม นายวัฒนา ยืนยันว่า จะแสดงความเห็นต่อไปในเรื่องที่เหมาะสม เพราะการแสดงความเห็นเป็นสิทธิ์ที่สามารถกระทำได้ และยืนยันด้วยว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวครั้งนี้ และไม่มีทางที่นายทักษิณ จะล็อบบี้ยูเอ็นได้
ทั้งนี้ นายวัฒนา เปิดเผยภายหลังใช้เวลาให้การต่อศาลนานกว่า 2 ชั่วโมง ระบุว่า ในวันนี้ตนเองได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และพร้อมสู้คดี โดยศาลจะนัดตรวจพยานอีกครั้งในวันที่ 13 มิถุนายน เวลา 09.00 น. สำหรับเงื่อนไขในการประกันตัวยังเหมือนเดิมคือห้ามเดินทางไปต่างประเทศ
นอกจากนี้ นายวัฒนา ได้ตั้งข้อสังเกตในเรื่องคดีว่า ตนพยายามยื่นขอความเป็นธรรมต่อศาล เนื่องจากยังไม่มีการสอบสวนใดๆ แต่อัยการก็เร่งดำเนินการฟ้องร้อง ซึ่งตนก็เห็นใจพนักงานอัยการว่าคงถูกกดดันให้เร่งคดี แต่ส่วนตัวยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และยังมั่นใจว่าจะได้ความยุติธรรมจากศาล
อย่างไรก็ตาม นายวัฒนา ยืนยันว่า จะแสดงความเห็นต่อไปในเรื่องที่เหมาะสม เพราะการแสดงความเห็นเป็นสิทธิ์ที่สามารถกระทำได้ และยืนยันด้วยว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวครั้งนี้ และไม่มีทางที่นายทักษิณ จะล็อบบี้ยูเอ็นได้