นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่จังหวัดกระบี่ ร่วมทำบันทึกข้อตกลงเพื่อความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวทางทะเลจังหวัดกระบี่ โดยกำหนดให้เรือนำเที่ยวทุกประเภท ทั้งเรือดำน้ำ เรือเร็ว เรือโดยสาร และเรือใบจักรยานนำเที่ยวที่เข้ามาในเขตอุทยานต้องจดทะเบียนให้ถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งจากการเพิ่มความเข้มงวด ทั้งการจัดเก็บรายได้นั้น 6 เดือน ที่ผ่านมาจัดเก็บได้กว่า 300 ล้านบาท และมีเรือเข้ามากว่า 1,000 ลำ แต่ปรากฏว่าการจดทะเบียนยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร เมื่อตรวจสอบและจับกุมมีจำนวนมากขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี มีความชัดเจนและสามารถทำงานได้ง่าย ควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรที่ถูกต้อง และสามารถควบคุมจำนวนเรือเข้าออกให้มีความเหมาะสมต่อสภาพพื้นที่อุทยานฯ จึงได้ออกประกาศให้เรือที่จะนำนักท่องเที่ยว หรือเข้ามาในเขตอุทยานเพื่อประกอบการท่องเที่ยว ให้มาจดทะเบียนภายในวันที่ 30 เมษายนนี้ เพื่อที่อุทยานฯจะได้นำเสนอไปยังกรมอุทยานฯ ในการอนุญาต แต่หากไม่มาจดทะเบียน อาจจะไม่ได้รับการอนุญาตในอนาคต เพราะหากเรือมีจำนวนมากเกินไปก็ต้องปิดรับจดทะเบียนต่อไป ส่วนเรือที่ขออนุญาตและอยู่ระหว่างการต่ออนุญาตยังสามารถเข้าใช้บริการได้ตามปกติ ขอให้ผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โทรติดต่อสอบถามได้ที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี มีความชัดเจนและสามารถทำงานได้ง่าย ควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรที่ถูกต้อง และสามารถควบคุมจำนวนเรือเข้าออกให้มีความเหมาะสมต่อสภาพพื้นที่อุทยานฯ จึงได้ออกประกาศให้เรือที่จะนำนักท่องเที่ยว หรือเข้ามาในเขตอุทยานเพื่อประกอบการท่องเที่ยว ให้มาจดทะเบียนภายในวันที่ 30 เมษายนนี้ เพื่อที่อุทยานฯจะได้นำเสนอไปยังกรมอุทยานฯ ในการอนุญาต แต่หากไม่มาจดทะเบียน อาจจะไม่ได้รับการอนุญาตในอนาคต เพราะหากเรือมีจำนวนมากเกินไปก็ต้องปิดรับจดทะเบียนต่อไป ส่วนเรือที่ขออนุญาตและอยู่ระหว่างการต่ออนุญาตยังสามารถเข้าใช้บริการได้ตามปกติ ขอให้ผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โทรติดต่อสอบถามได้ที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี