นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงโครงการนมโรงเรียน ว่า ได้สั่งการให้ทางกรมปศุสัตว์ ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลเรื่องโครงการนมโรงเรียน ให้ประสานงานไปยังองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันตรวจสอบแหล่งเก็บนมของแต่ละโรงเรียน กว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ ที่จะต้องได้รับนมในโครงการนมโรงเรียนทั้งหมด เพื่อให้เด็กนักเรียนได้ดื่มนมที่มีคุณภาพ หากพบว่าไม่มีที่เก็บนมที่มีคุณภาพตามที่กำหนด จะต้องมีการแก้ไขทันที เพราะช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงอากาศร้อน หากไม่มีที่เก็บนมที่ดีพออาจทำให้นมเน่าเสีย และมีปัญหากับเด็กนักเรียนได้
นอกจากนั้น ยังสั่งการให้มีการตรวจสอบแหล่งผลิตนมโรงเรียน ที่ได้รับโควต้าในการผลิตนมโรงเรียนทั้งหมดว่า มีการผลิตได้ตามกำหนดในสัญญาหรือไม่ ซึ่งทุกบริษัทที่ได้รับโควต้าต้องนมให้เป็นไปตามสัญญา และจะต้องมีการชี้แจงถึงขบวนการขนส่งที่มีคุณภาพให้พร้อม เพื่อให้ถึงมือเด็กนักเรียนได้ดื่มนมที่มีคุณภาพ และหากพบว่ามีการผลิตนมไม่ได้คุณภาพตามที่กำหนด จะมีการลงโทษโดยเฉียบขาดทันที
ทั้งนี้ นายธีรภัทร กล่าวอีกว่า ในวันที่ 26 เมษายนนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมีการประชุมหารือในการเตรียมความพร้อมในการจัดส่งนมในโรงการนมโรงเรียนในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้ดื่มนมที่มีคุณภาพต่อไป โดยยืนยันว่า จากนี้ไปกระทรวงเกษตรฯจะไม่ปล่อยให้เด็กนักเรียนดื่มนมในโครงการนมโรงเรียนที่ไม่มีคุณภาพอีกเด็ดขาด
นอกจากนั้น ยังสั่งการให้มีการตรวจสอบแหล่งผลิตนมโรงเรียน ที่ได้รับโควต้าในการผลิตนมโรงเรียนทั้งหมดว่า มีการผลิตได้ตามกำหนดในสัญญาหรือไม่ ซึ่งทุกบริษัทที่ได้รับโควต้าต้องนมให้เป็นไปตามสัญญา และจะต้องมีการชี้แจงถึงขบวนการขนส่งที่มีคุณภาพให้พร้อม เพื่อให้ถึงมือเด็กนักเรียนได้ดื่มนมที่มีคุณภาพ และหากพบว่ามีการผลิตนมไม่ได้คุณภาพตามที่กำหนด จะมีการลงโทษโดยเฉียบขาดทันที
ทั้งนี้ นายธีรภัทร กล่าวอีกว่า ในวันที่ 26 เมษายนนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมีการประชุมหารือในการเตรียมความพร้อมในการจัดส่งนมในโรงการนมโรงเรียนในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้ดื่มนมที่มีคุณภาพต่อไป โดยยืนยันว่า จากนี้ไปกระทรวงเกษตรฯจะไม่ปล่อยให้เด็กนักเรียนดื่มนมในโครงการนมโรงเรียนที่ไม่มีคุณภาพอีกเด็ดขาด