รายงานข่าวแจ้งว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กอ.รมน.จังหวัดระยอง ฝ่ายปกครอง กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เป็นต้น ดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง
โดยในส่วนของกรมอุทยานฯ ได้ตรวจสอบใน 5 ประเด็น ได้แก่ 1. การเช่าพื้นที่เขตที่ราชพัสดุ 2.รูปแปลงที่ดินเขตเช่าที่ดินราชพัสดุทุกแปลง 3.สำรวจอาคารสูงติดทะเล 4. ดำเนินการแจ้งรถรับจ้าง 2 แถว หรือเรือยนต์ที่เข้ามาในเขตอุทยานฯ เขาแหลมหญ้า ให้ดำเนินการขออนุญาตตามระเบียบของกรมอุทยานฯ และ 5 .ให้ดำเนินการตรวจสอบการบุกรุกก่อสร้างเพิ่มเติม ในเขตอุทยานฯ
ทั้งนี้พบว่ามีการก่อสร้างอาคารสูงติดทะเล มากกว่า 2 ชั้นขึ้นไปจำนวน 46 แห่ง โดยเป็นโรงแรมและรีสอร์ทชื่อดัง อยู่ในบริเวณหาดทรายแก้ว 20 แห่ง อ่าวไผ่ 7 แห่ง อ่าวทับทิม 4 แห่ง อ่าวพร้าว 2 แห่ง อ่าวช่อ 3 แห่ง อ่าววงเดือน 4 แห่ง อ่าวแสงเทียน 3 แห่ง อ่าวหวาย อ่าวกิ่ว และอ่าวปะการังที่ละ 1แห่ง โดยบางแห่งไม่ได้มีการขออนุญาตตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง และก่อสร้างเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้าน นายธนิต จันทะเดช หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการจัดระเบียบ ในส่วนของอุทยานฯ เขาแหลมหญ้า ได้สำรวจในส่วนของรถเช่าที่ยังไม่มีใบอนุญาตจากกรมอุทยานฯ โดยพบรถมอเตอร์ไซค์ 660 คัน ขณะที่ในส่วนของมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง หรือซาเล้งจำกัดให้บริการได้รีสอร์ทละ 2 คัน ส่วนที่เหลือต้องใช้ภายในรีสอร์ทเท่านั้น ทั้งนี้ยังเหลือในส่วนของรถยนต์ที่ยังสำรวจไม่แล้วเสร็จเบื้องต้น จำนวนประมาณ 800 คัน บางส่วนถ้ายังไม่มาขึ้นทะเบียนก็ต้องเอากลับขึ้นฝั่ง
สำหรับการบุกรุกก่อสร้างในพื้นที่เพิ่มเติมมี 2 แห่ง ซึ่งได้สั่งการให้หยุดก่อสร้างไปแล้ว เพราะไม่มีการขออนุญาตกับกรมอุทยานฯ ก่อน ทั้งนี้ในส่วนของอาคารสูงเกิน 2 ชั้น สำรวจพบ 46 แห่ง ถ้าเป็นรายเดิมก็ต้องไปดูว่ามีการเช่าพื้นที่จากกรมธนารักษ์ถูกต้อง และมีการขออนุญาตก่อสร้างกับกรมอุทยานฯ ถูกต้องหรือไม่ และถ้าไม่มีการขออนุญาตก็ถือว่าผิดระเบียบ และต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยจะใช้เวลาในการตรวจสอบการขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใน 1 เดือนนับจากนี้ จากนั้นจะนำเสนอขอความเห็นจากกรมอุทยานฯ และนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะทำงานร่วมจัดระเบียบพื้นที่อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า –หมู่เกาะเสม็ดเพื่อดำเนินการต่อไป
โดยในส่วนของกรมอุทยานฯ ได้ตรวจสอบใน 5 ประเด็น ได้แก่ 1. การเช่าพื้นที่เขตที่ราชพัสดุ 2.รูปแปลงที่ดินเขตเช่าที่ดินราชพัสดุทุกแปลง 3.สำรวจอาคารสูงติดทะเล 4. ดำเนินการแจ้งรถรับจ้าง 2 แถว หรือเรือยนต์ที่เข้ามาในเขตอุทยานฯ เขาแหลมหญ้า ให้ดำเนินการขออนุญาตตามระเบียบของกรมอุทยานฯ และ 5 .ให้ดำเนินการตรวจสอบการบุกรุกก่อสร้างเพิ่มเติม ในเขตอุทยานฯ
ทั้งนี้พบว่ามีการก่อสร้างอาคารสูงติดทะเล มากกว่า 2 ชั้นขึ้นไปจำนวน 46 แห่ง โดยเป็นโรงแรมและรีสอร์ทชื่อดัง อยู่ในบริเวณหาดทรายแก้ว 20 แห่ง อ่าวไผ่ 7 แห่ง อ่าวทับทิม 4 แห่ง อ่าวพร้าว 2 แห่ง อ่าวช่อ 3 แห่ง อ่าววงเดือน 4 แห่ง อ่าวแสงเทียน 3 แห่ง อ่าวหวาย อ่าวกิ่ว และอ่าวปะการังที่ละ 1แห่ง โดยบางแห่งไม่ได้มีการขออนุญาตตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง และก่อสร้างเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้าน นายธนิต จันทะเดช หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการจัดระเบียบ ในส่วนของอุทยานฯ เขาแหลมหญ้า ได้สำรวจในส่วนของรถเช่าที่ยังไม่มีใบอนุญาตจากกรมอุทยานฯ โดยพบรถมอเตอร์ไซค์ 660 คัน ขณะที่ในส่วนของมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง หรือซาเล้งจำกัดให้บริการได้รีสอร์ทละ 2 คัน ส่วนที่เหลือต้องใช้ภายในรีสอร์ทเท่านั้น ทั้งนี้ยังเหลือในส่วนของรถยนต์ที่ยังสำรวจไม่แล้วเสร็จเบื้องต้น จำนวนประมาณ 800 คัน บางส่วนถ้ายังไม่มาขึ้นทะเบียนก็ต้องเอากลับขึ้นฝั่ง
สำหรับการบุกรุกก่อสร้างในพื้นที่เพิ่มเติมมี 2 แห่ง ซึ่งได้สั่งการให้หยุดก่อสร้างไปแล้ว เพราะไม่มีการขออนุญาตกับกรมอุทยานฯ ก่อน ทั้งนี้ในส่วนของอาคารสูงเกิน 2 ชั้น สำรวจพบ 46 แห่ง ถ้าเป็นรายเดิมก็ต้องไปดูว่ามีการเช่าพื้นที่จากกรมธนารักษ์ถูกต้อง และมีการขออนุญาตก่อสร้างกับกรมอุทยานฯ ถูกต้องหรือไม่ และถ้าไม่มีการขออนุญาตก็ถือว่าผิดระเบียบ และต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยจะใช้เวลาในการตรวจสอบการขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใน 1 เดือนนับจากนี้ จากนั้นจะนำเสนอขอความเห็นจากกรมอุทยานฯ และนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะทำงานร่วมจัดระเบียบพื้นที่อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า –หมู่เกาะเสม็ดเพื่อดำเนินการต่อไป
