หมอกควันแม่ฮ่องสอน-เชียงรายยังวิกฤต ร้องอาเซียนประสานเพื่อนบ้านร่วมแก้ปัญหา

นายวิจารย์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ ในพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ จ.แม่ฮ่องสอน ยังเป็นพื้นที่วิกฤต พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน มีค่าเกินมาตรฐานสูงสุด 301 และ 264 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งค่ามาตรฐานอยู่ที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และในวันนี้ (31 มี.ค.) ที่ จ.เชียงราย ค่าอยู่ที่ 182 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นผลกระทบจากประเทศเพื่อนบ้าน

ขณะที่การแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนนั้น ประเทศไทยได้ส่งหนังสือไปยังเลขาธิการอาเซียน เพื่อชี้แจงให้ประเทศพม่าร่วมแก้ปัญหานี้ แต่เนื่องจากพม่าเพิ่งเปิดประเทศ จึงทำให้การทำงานบางอย่างยังล่าช้า อีกทั้งชาวบ้าน หรือชนเผ่ายังมีวิถีชีวิตแบบเดิมที่นิยมการเผา อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้ทุกประเทศจะร่วมมือกันแก้ปัญหา

ที่ผ่านมา กรมควบคุมมลพิษได้ส่งมอบสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบกึ่งถาวรให้แก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ไปแล้ว และเตรียมของบประมาณในปี 2560 ดำเนินติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศที่พม่าและกัมพูชา เพื่อให้ 2 ประเทศรับรู้ข้อมูลคุณภาพอากาศภายในประเทศ และสามารถนำไปวางแผนบริหารจัดการในพื้นที่ได้ แต่ในปัจจุบันทั้ง 2 ประเทศนี้ยังไม่มีสถานีตรวจวัดอากาศเลย ซึ่งตามข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษหมอกควันข้ามแดน เป็นข้อตกลงที่ 10 ประเทศอาเซียนให้สัตยาบันที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันที่เกิดขึ้นในประเทศภาคีสมาชิก