เมื่อวานนี้ (27 มี.ค. 59) นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Watana Muangsook" หัวข้อว่า "โพสต์สุดท้ายก่อนเข้าค่าย"
โดยระบุรายละเอียดถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (27 มีนาคม59) เวลาประมาณ 17.30 น. ทหารยกกำลังมาบ้านผมรวม 4 คันรถเพื่อนำตัวผมไปควบคุมตามคำสั่งหัวหน้า คสช. สอบถามได้ความว่ามาจากบทความที่ผมโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นกรณีคุณวรชัย เหมะ ถูกควบคุมตัวไปปรับทัศนคติ บังเอิญผมไม่ได้อยู่บ้านประกอบกับผมต้องไปรายงานตัวต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันนี้เวลา 08.30 น. ผมจึงต่อรองขอไปพบเจ้าหน้าที่ที่ มทบ. 11 เวลา 11.00 น. แต่ทหารก็ยังคงล้อมบ้านผม ตรวจสอบการเข้าออกและลาดตระเวนในหมู่บ้านทั้งคืน ทำให้ผมเข้าบ้านไม่ได้ต้องไปนอนบ้านเพื่อน ผู้คนในหมู่บ้านเดือดร้อนและผมต้องไปศาลในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ผมใส่ในวันอาทิตย์
ถ้าใครอ่านบทความเรื่อง "ความผิดฐานใหม่" จะเห็นว่าผมแสดงความคิดเห็นโดยอิงข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ ผมเรียกร้องให้ประชาชนออกมามากๆ เพื่อใช้สิทธิลงคะแนนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่ผมเห็นว่าไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ผมมีสิทธิโดยชอบที่จะไม่เห็นด้วยและย่อมมีสิทธิที่จะรณรงค์ให้ประชาชนลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับที่ คสช. มีสิทธิที่จะรณรงค์ให้คนเห็นด้วยซึ่งผมให้ความเคารพ ผมไม่เคยเรียกร้องให้ประชาชนออกมาก่อความวุ่นวาย สิ่งที่ผมรณรงค์คือการขอให้ประชาชนมาใช้สิทธิของตนตามกฎหมาย ผมทำอะไรผิดช่วยบอกที ข้อกล่าวหาที่ท่านอ้างในการยกกำลังมาควบคุมตัวผม คือข้อหาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 อันเป็นข้อหาเดียวกับที่พลเรือเอกพะจุณณ์ ตามประทีป ถูกกล่าวหาเนื่องจากการโพสต์ข้อความกรณีการแต่งตั้งตำรวจ แต่ในคดีของพลเรือเอกพะจุณณ์ พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดำเนินคดีและออกหมายเรียกตามขั้นตอน ส่วนของผมท่านใช้วิธียกกำลังมาอุ้ม แบบนี้คือการเลือกปฏิบัติซึ่งทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศในภาพรวม เชื่อเถิดว่าผมไม่ได้เกรงกลัวกับสิ่งที่ท่านทำกับผม เพียงแต่ผมต้องการให้ท่านใช้อำนาจให้เป็นไปตามครรลองของกฎหมาย เนื่องจากเราเป็นสังคมนิติรัฐจึงต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย อันจะทำให้ประเทศไทยดูดีในสายตาประชาคมโลก
ผมจะยังคงวิพากษ์วิจารณ์ท่านต่อไปเพราะท่านเป็นนักการเมือง ผมหวังให้ท่านทำดีสามารถแก้ไขปัญหาให้กับชาติบ้านเมือง เพราะหากทุกอย่างดีขึ้นผมก็ย่อมได้รับประโยชน์ด้วย ผมเห็นว่าใครก็ตามที่ใช้อำนาจรัฐและกินเงินเดือนจากภาษีอากรของพี่น้องประชาชนย่อมจะถูกวิจารณ์ได้เสมอ การแสดงความเห็นของผมจึงทำไปตามสิทธิบนความหวังดีต่อประเทศชาติ ผมอาจทำผิดได้และไม่มีสิทธิอยู่เหนือกฎหมาย แต่ท่านต้องใช้วิธีตามกฎหมายกับผมและกับทุกคนในประเทศนี้ เพราะการใช้กองกำลังมาอุ้มผมแบบนั้นทำให้ประเทศชาติเสียหายในสายตาประชาคมโลกครับ
โดยระบุรายละเอียดถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (27 มีนาคม59) เวลาประมาณ 17.30 น. ทหารยกกำลังมาบ้านผมรวม 4 คันรถเพื่อนำตัวผมไปควบคุมตามคำสั่งหัวหน้า คสช. สอบถามได้ความว่ามาจากบทความที่ผมโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นกรณีคุณวรชัย เหมะ ถูกควบคุมตัวไปปรับทัศนคติ บังเอิญผมไม่ได้อยู่บ้านประกอบกับผมต้องไปรายงานตัวต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันนี้เวลา 08.30 น. ผมจึงต่อรองขอไปพบเจ้าหน้าที่ที่ มทบ. 11 เวลา 11.00 น. แต่ทหารก็ยังคงล้อมบ้านผม ตรวจสอบการเข้าออกและลาดตระเวนในหมู่บ้านทั้งคืน ทำให้ผมเข้าบ้านไม่ได้ต้องไปนอนบ้านเพื่อน ผู้คนในหมู่บ้านเดือดร้อนและผมต้องไปศาลในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ผมใส่ในวันอาทิตย์
ถ้าใครอ่านบทความเรื่อง "ความผิดฐานใหม่" จะเห็นว่าผมแสดงความคิดเห็นโดยอิงข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ ผมเรียกร้องให้ประชาชนออกมามากๆ เพื่อใช้สิทธิลงคะแนนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่ผมเห็นว่าไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ผมมีสิทธิโดยชอบที่จะไม่เห็นด้วยและย่อมมีสิทธิที่จะรณรงค์ให้ประชาชนลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับที่ คสช. มีสิทธิที่จะรณรงค์ให้คนเห็นด้วยซึ่งผมให้ความเคารพ ผมไม่เคยเรียกร้องให้ประชาชนออกมาก่อความวุ่นวาย สิ่งที่ผมรณรงค์คือการขอให้ประชาชนมาใช้สิทธิของตนตามกฎหมาย ผมทำอะไรผิดช่วยบอกที ข้อกล่าวหาที่ท่านอ้างในการยกกำลังมาควบคุมตัวผม คือข้อหาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 อันเป็นข้อหาเดียวกับที่พลเรือเอกพะจุณณ์ ตามประทีป ถูกกล่าวหาเนื่องจากการโพสต์ข้อความกรณีการแต่งตั้งตำรวจ แต่ในคดีของพลเรือเอกพะจุณณ์ พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดำเนินคดีและออกหมายเรียกตามขั้นตอน ส่วนของผมท่านใช้วิธียกกำลังมาอุ้ม แบบนี้คือการเลือกปฏิบัติซึ่งทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศในภาพรวม เชื่อเถิดว่าผมไม่ได้เกรงกลัวกับสิ่งที่ท่านทำกับผม เพียงแต่ผมต้องการให้ท่านใช้อำนาจให้เป็นไปตามครรลองของกฎหมาย เนื่องจากเราเป็นสังคมนิติรัฐจึงต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย อันจะทำให้ประเทศไทยดูดีในสายตาประชาคมโลก
ผมจะยังคงวิพากษ์วิจารณ์ท่านต่อไปเพราะท่านเป็นนักการเมือง ผมหวังให้ท่านทำดีสามารถแก้ไขปัญหาให้กับชาติบ้านเมือง เพราะหากทุกอย่างดีขึ้นผมก็ย่อมได้รับประโยชน์ด้วย ผมเห็นว่าใครก็ตามที่ใช้อำนาจรัฐและกินเงินเดือนจากภาษีอากรของพี่น้องประชาชนย่อมจะถูกวิจารณ์ได้เสมอ การแสดงความเห็นของผมจึงทำไปตามสิทธิบนความหวังดีต่อประเทศชาติ ผมอาจทำผิดได้และไม่มีสิทธิอยู่เหนือกฎหมาย แต่ท่านต้องใช้วิธีตามกฎหมายกับผมและกับทุกคนในประเทศนี้ เพราะการใช้กองกำลังมาอุ้มผมแบบนั้นทำให้ประเทศชาติเสียหายในสายตาประชาคมโลกครับ