พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามนโยบายของรัฐบาลว่า กระทรวงกลาโหม ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงเดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามแผน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เลือกปฏิบัติ ตลอดระยะเวลาเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา กำลังทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันสนธิกำลังเข้ากวาดล้าง จับกุม ผู้มีอิทธิพลในธุรกิจสีดำ 16 ฐานความผิดที่กำหนด ทั้งกลุ่มยาเสพติด ค้าอาวุธสงคราม การข่มขู่ ขูดรีด เรียกเก็บผลประโยชน์ มือปืนรับจ้าง การบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โดยจะสาวความเชื่อมโยงถึงผู้รับประโยชน์และผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป
สำหรับฐานความผิดที่กำหนดขึ้นดังกล่าว เป็นเงื่อนไขสำคัญต่อปัญหาฐานรากและอุปสรรคของการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ ที่หลายฝ่ายไม่ปรารถนาและไม่สามารถยอมรับได้ อีกทั้งยังเป็นต้นเหตุเงื่อนไขสำคัญ ที่องค์กรระหว่างประเทศและองค์กรเอ็นจีโอ ร่วมกันรณรงค์ต่อต้านและปฏิเสธมาตลอด ทั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชน การลิดรอนเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน การใช้ความรุนแรง การค้ามนุษย์ การกดขี่ทารุณกรรมทางเพศ การทุจริตคอรัปชั่น การบุกรุกทำลายทรัพยากรทางธรรมชาติ รวมไปถึงการเชื่อมโยงการก่อการร้ายและอาชญกรรมข้ามชาติ ซึ่งไม่เป็นที่ประสงค์ของประชาชนและสังคมโลก
กำลังเจ้าหน้าที่รัฐของหน่วยงานความมั่นคง จะเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อมิให้ปัญหาเหล่านี้เป็นเงื่อนไขที่เกิดเป็นความเคยชินในสังคมต่อไป ขณะเดียวกัน ต้องขอความร่วมมือจากภาคประชาชนและสื่อมวลชน ได้ร่วมกันสนับสนุนกดดันกลุ่มบุคคลเหล่านี้ให้ยุติพฤติกรรมดังกล่าว ด้วยมาตรการต่างๆทางสังคมในความรับผิดชอบตามบทบาทที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ร่วมกัน พร้อมทั้งร่วมกันแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่รัฐโดยตรง หากมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือสังเกตพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่จะนำมาซึ่งความรุนแรงหรือความเสียหายต่อสังคมเป็นส่วนรวม เพื่อให้มีการบังคับใช้กฎหมายกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกันและทันเวลา ตามนโยบายของรัฐบาล
สำหรับฐานความผิดที่กำหนดขึ้นดังกล่าว เป็นเงื่อนไขสำคัญต่อปัญหาฐานรากและอุปสรรคของการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ ที่หลายฝ่ายไม่ปรารถนาและไม่สามารถยอมรับได้ อีกทั้งยังเป็นต้นเหตุเงื่อนไขสำคัญ ที่องค์กรระหว่างประเทศและองค์กรเอ็นจีโอ ร่วมกันรณรงค์ต่อต้านและปฏิเสธมาตลอด ทั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชน การลิดรอนเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน การใช้ความรุนแรง การค้ามนุษย์ การกดขี่ทารุณกรรมทางเพศ การทุจริตคอรัปชั่น การบุกรุกทำลายทรัพยากรทางธรรมชาติ รวมไปถึงการเชื่อมโยงการก่อการร้ายและอาชญกรรมข้ามชาติ ซึ่งไม่เป็นที่ประสงค์ของประชาชนและสังคมโลก
กำลังเจ้าหน้าที่รัฐของหน่วยงานความมั่นคง จะเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อมิให้ปัญหาเหล่านี้เป็นเงื่อนไขที่เกิดเป็นความเคยชินในสังคมต่อไป ขณะเดียวกัน ต้องขอความร่วมมือจากภาคประชาชนและสื่อมวลชน ได้ร่วมกันสนับสนุนกดดันกลุ่มบุคคลเหล่านี้ให้ยุติพฤติกรรมดังกล่าว ด้วยมาตรการต่างๆทางสังคมในความรับผิดชอบตามบทบาทที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ร่วมกัน พร้อมทั้งร่วมกันแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่รัฐโดยตรง หากมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือสังเกตพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่จะนำมาซึ่งความรุนแรงหรือความเสียหายต่อสังคมเป็นส่วนรวม เพื่อให้มีการบังคับใช้กฎหมายกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกันและทันเวลา ตามนโยบายของรัฐบาล