นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า จากสภาพปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดพิจิตร จนส่งผลให้ปริมาณน้ำในบึงสีไฟ แม่น้ำพิจิตร และคลองข้าวตอก มีสภาพแห้งขอด จนส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวนั้น กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 3 ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยการรับน้ำจากแม่น้ำน่านเข้าคลองสายใหญ่(C.1) ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลายชุมพล ในอัตรา 8 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อส่งไปยังบึงสีไฟ คลองข้าวตอก และแม่น้ำพิจิตร เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค สวนผลไม้และรักษาระบบนิเวศ
ทั้งนี้ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม เป็นต้นมา ปัจจุบันปริมาณน้ำได้เดินทางถึง กม.+100 ของคลอง C.1 แล้ว คาดว่าปริมาณน้ำจะเริ่มไหลเข้าสู่บริเวณบึงสีไฟ ได้ประมาณวันที่ 27 มีนาคมนี้ พร้อมขอย้ำให้ทุกภาคส่วน ร่วมแรงร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดมากที่สุด เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด เพียงพอใช้สำหรับอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศ ไปจนกว่าฤดูฝนปีนี้จะมาเป็นปกติ
ทั้งนี้ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม เป็นต้นมา ปัจจุบันปริมาณน้ำได้เดินทางถึง กม.+100 ของคลอง C.1 แล้ว คาดว่าปริมาณน้ำจะเริ่มไหลเข้าสู่บริเวณบึงสีไฟ ได้ประมาณวันที่ 27 มีนาคมนี้ พร้อมขอย้ำให้ทุกภาคส่วน ร่วมแรงร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดมากที่สุด เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด เพียงพอใช้สำหรับอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศ ไปจนกว่าฤดูฝนปีนี้จะมาเป็นปกติ