นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายในเร็วๆนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอแก้ พ.ร.บ. บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) เพื่อให้ บตท.สามารถเข้าดูแลผู้สูงอายุที่ไม่มีเงินบำนาญ ไม่มีเงินออม แต่มีบ้านเป็นของตนเองสามารถนำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อกู้เงินจาก บตท.นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้จนกว่าจะเสียชีวิต หรือเรียกว่า Reverse Mortgage โดยบ้านหลังดังกล่าว เมื่อเจ้าของบ้านเสียชีวิตจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ บตท.แล้วขายทอดตลาดต่อไป หรือในกรณีนี้ ทายาทต้องการบ้านคืนก็สามารถซื้อจาก บตท.ได้
“ขณะนี้ ยังเป็นเพียงหลักการ แต่ในอนาคตสังคมไทยกำลังเข้าสู่วัยชรา ซึ่งผู้สูงอายุบางคนอาจเตรียมการเอาไว้ดีมีทั้งเงินบำนาญ และเงินออม แต่ในกรณีที่ไม่ได้เตรียมการเอาไว้ บตท. ธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารพาณิชย์ก็ต้องเข้าช่วยเหลือผู้สูงอายุเหล่านี้ได้ โดยมีรูปแบบและวิธีการง่ายๆ เช่น กรณีที่คนหนุ่มสาว ซื้อบ้านต้องผ่อนเงินงวดจนกว่าจะหมด แต่ Reverse Mortgage จะตรงกันข้ามคือ เจ้าของบ้านจะได้รับเงินจากธนาคารทุกเดือนเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยได้สั่งให้ สศค.นำข้อดี ข้อเสียและอุปสรรคต่างๆ มาพิจารณาร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อแจ้งเกิดโครงการนี้ให้ได้ เพราะในหลักการถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก”
“ขณะนี้ ยังเป็นเพียงหลักการ แต่ในอนาคตสังคมไทยกำลังเข้าสู่วัยชรา ซึ่งผู้สูงอายุบางคนอาจเตรียมการเอาไว้ดีมีทั้งเงินบำนาญ และเงินออม แต่ในกรณีที่ไม่ได้เตรียมการเอาไว้ บตท. ธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารพาณิชย์ก็ต้องเข้าช่วยเหลือผู้สูงอายุเหล่านี้ได้ โดยมีรูปแบบและวิธีการง่ายๆ เช่น กรณีที่คนหนุ่มสาว ซื้อบ้านต้องผ่อนเงินงวดจนกว่าจะหมด แต่ Reverse Mortgage จะตรงกันข้ามคือ เจ้าของบ้านจะได้รับเงินจากธนาคารทุกเดือนเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยได้สั่งให้ สศค.นำข้อดี ข้อเสียและอุปสรรคต่างๆ มาพิจารณาร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อแจ้งเกิดโครงการนี้ให้ได้ เพราะในหลักการถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก”