เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ คอลัมนิสต์ด้านรถยนต์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pattanadesh Asasappakij ให้ความเห็นถึงกรณีรถเบนซ์ ทะเบียน ษง 3333 ชนรถฟอร์ด จนทำให้ไฟลุกท่วม มีผู้เสียชีวิต 2 รายดังนี้
สองสามวันมานี้ผมได้รับเกียรติจากสื่อมวลชนหลายท่าน อย่างน้อยก็ ทีวี. สามช่อง, หนังสือพิมพ์, และ รายการวิทยุ ที่มาสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีอุบัติเหตุที่กำลังพูดถึง และผมโชคดีที่ทุกคนที่มาสัมภาษณ์เข้าใจผม อาจจะเป็นเพราะทุกคนเคยมาสอบถามความเห็นมาก่อนแล้วจากหลายๆกรณีด้วยกัน ผมจึงอยากจะเอามาเล่าสรุปให้ฟังตรงนี้ดังต่อไปนี้
ผมไม่เกี่ยวข้องกับคดี ความเห็นของผมจึงไม่ไปรู้เรื่องคดีแต่อย่างใด ผมจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีของอุบัติเหตุเท่านั้น
ผมต้องการให้อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นกรณีศึกษา ผมจึงไม่แตกประเด็นไปว่า รถคันนั้นเป็นรถหรู, รถแพง, คนรวยขับ ฯลฯ แต่อย่างใด เพราะจากคลิปที่ได้เห็นนั้น ไม่ว่าจะขับรถอะไรถ้าขับแบบนั้นรถอะไรก็ชน ผมจึงสรุปว่าเกิดจากคนที่ขาดสติเป็นผู้ขับ
ส่วนจะขาดสติเพราะประมาท, เพราะหลับใน, เพราะเมา, เพราะป่วย ฯลฯ หรืออะไรผมไม่ทราบ เหตุผลที่ผมบอกว่าขาดสติ เพราะช่องว่างด้านซ้ายตรงนั้นเห็นชัดๆว่ามันไม่มีพื้นที่พอให้แซง แต่คนขับยังขับไป "ด้วยความเร็วคงที่" ไม่มี่ทีท่าว่าจะชะลอหรือชะงักแม้แต่น้อย และมองเห็นได้ว่าด้านขวามีพื้นที่ว่างพอที่จะแซงได้ด้วยซ้ำ
ผมไม่ได้สนใจว่ารถคันนั้นจะมาเร็วถึงสองร้อยสามร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือไม่ เพราะแซงแบบนั้นขับมายี่สิบกิโลเมตรก็ชน และหากจะเทียบความเร็วกับรถปิ๊คอัพในช่องทางคู่ขนาน รถเบนซ์ก็ไม่น่าจะมาเร็วเกินกว่า ๑๔๐ ( ผมเดาจากการเทียบเคียงรถปิ๊คอัพ ที่วิ่งผ่านเสา )
การชนในลักษณะนี้ หากรถที่ถูกชนไม่เกิดไฟลุกไหม้ ความเสียหายน่าจะไม่มาก เพราะเป็นการชนแบบ "เกี่ยวท้ายจนรถหมุน" เพียงแต่กระเด็นไปไกลเพราะความเร็วของทั้งสองคันรวมกัน หรือขณะถกชนเท้าของคนขับคันที่ถูกชนอาจจะกดน้ำหนักไปที่คันเร่งเพิ่มอีกก็เป็นได้ทั้งนั้น
เมื่อเกิดการเกี่ยวท้ายกันบริเวณมุมด้านซ้ายของท้ายรถคันหน้า รถคันหน้าที่ถูกชนจึงหมุนโดยหันหัวรถไปทางขวาเพราะท้ายด้านซ้ายถูกดันให้เบนออกด้านซ้าย ผมจึงบอกว่าถ้าไฟไม่ลุกไหม้ รถที่ถูกชน "น่าจะเสียหายไม่มากอย่างที่เป็นอยู่"
ส่วนกรณีที่รถเบนซ์คันชนหงายท้องตีลังกา ให้ไปดูคลิปกันช้าๆจะพบว่า รถเบนซ์เอาหน้าด้านขวาไปชนหรือที่ผมใช้ศัพท์ว่าเกี่ยว กับท้ายรถด้านซ้ายของรถฟอร์ด เมื่อโดนกันหน้าของรถเบนซ์จึงหันไปทางซ้าย ทำให้ไปปะทะหรือปีนกับขอบปูนกั้นระหว่างทางด่วนกับทางคู่ขนาน แล้วจึงสะบัดกลับมา ซึ่งจะสะบัดเองเพราะล้อโดนขอบปูน หรือสะบัดเพราะคนขับตกใจหักพวงมาลัยกระตุกสะบัดกลับ ผมไม่ทราบ แต่เป็นการสะบัดกลับอย่างแรงในมุมแคบมากทันทีทันใด รถจึงตะแคงพลิกคว่ำหงายท้องไป
ประเด็นสำคัญที่สังคมนี้กำลังเพิกเฉยกันก็คือ ทำไมไฟไหม้ขึ้นมาได้มันเกิดอะไรขึ้น และ ทำไมคนขับรถเบนซ์จึงขับแบบขาดสติ
สำหรับผมมีเพียงแค่สองประเด็นนี้เท่านั้นจริงๆที่คิดว่าถ้ารู้สาเหตุก็จะมีประโยชน์กับสังคมมากกว่าที่กำลังคุยกัน เช่น รถคันนี้มันกี่แรงม้า มันราคาเท่าไหร่ มันนำเข้ามาโดยใคร, ถ้าไม่ใช่เบนซ์คนขับมันจะตายไหม ฯลฯ
ถูกผิดอย่างไรไม่ทราบแต่นี่เป็นมุมมองของผม
สองสามวันมานี้ผมได้รับเกียรติจากสื่อมวลชนหลายท่าน อย่างน้อยก็ ทีวี. สามช่อง, หนังสือพิมพ์, และ รายการวิทยุ ที่มาสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีอุบัติเหตุที่กำลังพูดถึง และผมโชคดีที่ทุกคนที่มาสัมภาษณ์เข้าใจผม อาจจะเป็นเพราะทุกคนเคยมาสอบถามความเห็นมาก่อนแล้วจากหลายๆกรณีด้วยกัน ผมจึงอยากจะเอามาเล่าสรุปให้ฟังตรงนี้ดังต่อไปนี้
ผมไม่เกี่ยวข้องกับคดี ความเห็นของผมจึงไม่ไปรู้เรื่องคดีแต่อย่างใด ผมจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีของอุบัติเหตุเท่านั้น
ผมต้องการให้อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นกรณีศึกษา ผมจึงไม่แตกประเด็นไปว่า รถคันนั้นเป็นรถหรู, รถแพง, คนรวยขับ ฯลฯ แต่อย่างใด เพราะจากคลิปที่ได้เห็นนั้น ไม่ว่าจะขับรถอะไรถ้าขับแบบนั้นรถอะไรก็ชน ผมจึงสรุปว่าเกิดจากคนที่ขาดสติเป็นผู้ขับ
ส่วนจะขาดสติเพราะประมาท, เพราะหลับใน, เพราะเมา, เพราะป่วย ฯลฯ หรืออะไรผมไม่ทราบ เหตุผลที่ผมบอกว่าขาดสติ เพราะช่องว่างด้านซ้ายตรงนั้นเห็นชัดๆว่ามันไม่มีพื้นที่พอให้แซง แต่คนขับยังขับไป "ด้วยความเร็วคงที่" ไม่มี่ทีท่าว่าจะชะลอหรือชะงักแม้แต่น้อย และมองเห็นได้ว่าด้านขวามีพื้นที่ว่างพอที่จะแซงได้ด้วยซ้ำ
ผมไม่ได้สนใจว่ารถคันนั้นจะมาเร็วถึงสองร้อยสามร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือไม่ เพราะแซงแบบนั้นขับมายี่สิบกิโลเมตรก็ชน และหากจะเทียบความเร็วกับรถปิ๊คอัพในช่องทางคู่ขนาน รถเบนซ์ก็ไม่น่าจะมาเร็วเกินกว่า ๑๔๐ ( ผมเดาจากการเทียบเคียงรถปิ๊คอัพ ที่วิ่งผ่านเสา )
การชนในลักษณะนี้ หากรถที่ถูกชนไม่เกิดไฟลุกไหม้ ความเสียหายน่าจะไม่มาก เพราะเป็นการชนแบบ "เกี่ยวท้ายจนรถหมุน" เพียงแต่กระเด็นไปไกลเพราะความเร็วของทั้งสองคันรวมกัน หรือขณะถกชนเท้าของคนขับคันที่ถูกชนอาจจะกดน้ำหนักไปที่คันเร่งเพิ่มอีกก็เป็นได้ทั้งนั้น
เมื่อเกิดการเกี่ยวท้ายกันบริเวณมุมด้านซ้ายของท้ายรถคันหน้า รถคันหน้าที่ถูกชนจึงหมุนโดยหันหัวรถไปทางขวาเพราะท้ายด้านซ้ายถูกดันให้เบนออกด้านซ้าย ผมจึงบอกว่าถ้าไฟไม่ลุกไหม้ รถที่ถูกชน "น่าจะเสียหายไม่มากอย่างที่เป็นอยู่"
ส่วนกรณีที่รถเบนซ์คันชนหงายท้องตีลังกา ให้ไปดูคลิปกันช้าๆจะพบว่า รถเบนซ์เอาหน้าด้านขวาไปชนหรือที่ผมใช้ศัพท์ว่าเกี่ยว กับท้ายรถด้านซ้ายของรถฟอร์ด เมื่อโดนกันหน้าของรถเบนซ์จึงหันไปทางซ้าย ทำให้ไปปะทะหรือปีนกับขอบปูนกั้นระหว่างทางด่วนกับทางคู่ขนาน แล้วจึงสะบัดกลับมา ซึ่งจะสะบัดเองเพราะล้อโดนขอบปูน หรือสะบัดเพราะคนขับตกใจหักพวงมาลัยกระตุกสะบัดกลับ ผมไม่ทราบ แต่เป็นการสะบัดกลับอย่างแรงในมุมแคบมากทันทีทันใด รถจึงตะแคงพลิกคว่ำหงายท้องไป
ประเด็นสำคัญที่สังคมนี้กำลังเพิกเฉยกันก็คือ ทำไมไฟไหม้ขึ้นมาได้มันเกิดอะไรขึ้น และ ทำไมคนขับรถเบนซ์จึงขับแบบขาดสติ
สำหรับผมมีเพียงแค่สองประเด็นนี้เท่านั้นจริงๆที่คิดว่าถ้ารู้สาเหตุก็จะมีประโยชน์กับสังคมมากกว่าที่กำลังคุยกัน เช่น รถคันนี้มันกี่แรงม้า มันราคาเท่าไหร่ มันนำเข้ามาโดยใคร, ถ้าไม่ใช่เบนซ์คนขับมันจะตายไหม ฯลฯ
ถูกผิดอย่างไรไม่ทราบแต่นี่เป็นมุมมองของผม