พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ของนายกรัฐมนตรี วันนี้ (18 มี.ค.59) ว่า เป็นการติดตามความก้าวหน้านโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงการแก้ปัญหาความยากจน โครงการที่ดินทำกิน การพัฒนาอาชีพ มาตรการความช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งด้านการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง และการบริหารจัดการน้ำ พร้อมทั้งพบปะและพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อติดตามและสอบถามถึงสภาพความเป็นอยู่และความต้องการของประชาชน
โดยนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปยังอำเภอเพ็ญ เพื่อพบปะกับประชาชน และติดตามโครงการความช่วยเหลือจากรัฐบาล ประกอบด้วยโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง และการส่งเสริมอาชีพเสริมให้เกษตรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยจะมีการมอบหนังสืออนุญาตที่ดินทำกิน และหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชนให้ตัวแทนชุมชน พร้อมพบปราชญ์ชาวบ้าน และเยี่ยมชมนิทรรศการการบริหารจัดการและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี จะมอบบ่อน้ำบาดาลให้กับโรงเรียนตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล เพื่อสนับสนุนระบบน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างประตูเปิด-ปิดน้ำ และคลองส่งน้ำหนองมัก ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของชุมชนในการวางแผนและร่วมกันดำเนินงานจนประสบความสำเร็จจากงบประมาณสนับสนุนตำบลละ 1 ล้านบาท ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยทางชุมชนได้นำงบประมาณที่ได้ มาสร้างประตูปิด-เปิดน้ำ และคลองส่งน้ำ เพื่อเป็นการจัดการแหล่งน้ำทางการเกษตรของชุมชน เพิ่มความเข้มแข็ง และลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียผลผลิตทางการเกษตรที่อาจเกิดขึ้นจากภัยแล้ง ครอบคลุมพื้นที่การเกษตร 1,079 ไร่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะได้ติดตามความคืบหน้าการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อยและการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาล พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการโครงการการดำเนินงานของจังหวัด รวมทั้งเยี่ยมชมกิจกรรมของนักศึกษาในกลุ่มประเทศอาเซียน ก่อนจะหารือร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ กรอ. ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (อุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู และบึงกาฬ) เพื่อรับทราบการบริหารจัดการภัยแล้ง การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอของภาคเอกชนในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ตามนโยบาย "ประชารัฐ" รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่ง จ.อุดรธานี ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางภูมิภาค เป็นประตูสู่อาเซียน
โดยนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปยังอำเภอเพ็ญ เพื่อพบปะกับประชาชน และติดตามโครงการความช่วยเหลือจากรัฐบาล ประกอบด้วยโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง และการส่งเสริมอาชีพเสริมให้เกษตรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยจะมีการมอบหนังสืออนุญาตที่ดินทำกิน และหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชนให้ตัวแทนชุมชน พร้อมพบปราชญ์ชาวบ้าน และเยี่ยมชมนิทรรศการการบริหารจัดการและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี จะมอบบ่อน้ำบาดาลให้กับโรงเรียนตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล เพื่อสนับสนุนระบบน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างประตูเปิด-ปิดน้ำ และคลองส่งน้ำหนองมัก ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของชุมชนในการวางแผนและร่วมกันดำเนินงานจนประสบความสำเร็จจากงบประมาณสนับสนุนตำบลละ 1 ล้านบาท ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยทางชุมชนได้นำงบประมาณที่ได้ มาสร้างประตูปิด-เปิดน้ำ และคลองส่งน้ำ เพื่อเป็นการจัดการแหล่งน้ำทางการเกษตรของชุมชน เพิ่มความเข้มแข็ง และลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียผลผลิตทางการเกษตรที่อาจเกิดขึ้นจากภัยแล้ง ครอบคลุมพื้นที่การเกษตร 1,079 ไร่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะได้ติดตามความคืบหน้าการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อยและการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาล พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการโครงการการดำเนินงานของจังหวัด รวมทั้งเยี่ยมชมกิจกรรมของนักศึกษาในกลุ่มประเทศอาเซียน ก่อนจะหารือร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ กรอ. ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (อุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู และบึงกาฬ) เพื่อรับทราบการบริหารจัดการภัยแล้ง การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอของภาคเอกชนในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ตามนโยบาย "ประชารัฐ" รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่ง จ.อุดรธานี ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางภูมิภาค เป็นประตูสู่อาเซียน