การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท.วันนี้ (14 มี.ค.) มีร้อยเอก ทินพันธ์ นาคะตะ ประธาน สปท.เป็นประธาน เริ่มในเวลา 09.30 น.เป็นการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เรื่อง แผนปฏิรูปเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการประกันคุณภาพการศึกษาภายในและการประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอก
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานกรรมาธิการฯ ชี้แจงแผนปฏิรูปเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน และการประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอก ว่า ต้องชะลอการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน โดยหน่วยงานต้นสังกัด และการประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอก รอบที่ 4 ออกไป 2 ปี จนกว่าการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในและการประเมินที่เหมาะสมจะแล้วเสร็จ โดยกำหนดระยะเวลาในการพัฒนาระบบ 1 ปี และการทดลองระบบอีก 3 ปี เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของระบบ
ขณะเดียวกัน ต้องจัดการประชุมสัมมนาวิชาการและการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อรวบรวมแนวคิดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมดำเนินการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในและประเมินคุณภาพภายนอก ด้วยการวิจัยแบบวิจัยและพัฒนา เพื่อเก็บข้อมูลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน
ด้านสมาชิก สปท.ส่วนใหญ่อภิปรายเห็นด้วยกับหลักการปฏิรูป เพราะการศึกษามีส่วนสำคัญกับการพัฒนาประเทศ แต่เห็นว่าแนวทางปฏิรูปบางส่วนยังไม่เป็นรูปธรรมมากนัก โดยเฉพาะการชะลอการประเมินออกไป 2 ปี จึงฝากข้อเสนอแนะ โดยการชะลอการประเมิน จะต้องศึกษาข้อกฎหมายองค์การมหาชน เกี่ยวกับหลักการประเมินให้ชัดเจนว่าควรจะเป็นรูปแบบใดบ้าง เพื่อการประเมินที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ระบบการประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอก ควรมีการพิจารณานำระบบการประเมินคุณภาพรับรองมาตรฐานของโรงพยาบาลมาปรับใช้ เพราะทำให้มีความเชื่อมโยงระหว่างกัน
ทั้งนี้ หลังการอภิปรายที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 149 ต่อ 4 เสียง และงดออกเสียง 19 เสียง
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานกรรมาธิการฯ ชี้แจงแผนปฏิรูปเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน และการประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอก ว่า ต้องชะลอการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน โดยหน่วยงานต้นสังกัด และการประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอก รอบที่ 4 ออกไป 2 ปี จนกว่าการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในและการประเมินที่เหมาะสมจะแล้วเสร็จ โดยกำหนดระยะเวลาในการพัฒนาระบบ 1 ปี และการทดลองระบบอีก 3 ปี เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของระบบ
ขณะเดียวกัน ต้องจัดการประชุมสัมมนาวิชาการและการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อรวบรวมแนวคิดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมดำเนินการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในและประเมินคุณภาพภายนอก ด้วยการวิจัยแบบวิจัยและพัฒนา เพื่อเก็บข้อมูลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน
ด้านสมาชิก สปท.ส่วนใหญ่อภิปรายเห็นด้วยกับหลักการปฏิรูป เพราะการศึกษามีส่วนสำคัญกับการพัฒนาประเทศ แต่เห็นว่าแนวทางปฏิรูปบางส่วนยังไม่เป็นรูปธรรมมากนัก โดยเฉพาะการชะลอการประเมินออกไป 2 ปี จึงฝากข้อเสนอแนะ โดยการชะลอการประเมิน จะต้องศึกษาข้อกฎหมายองค์การมหาชน เกี่ยวกับหลักการประเมินให้ชัดเจนว่าควรจะเป็นรูปแบบใดบ้าง เพื่อการประเมินที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ระบบการประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอก ควรมีการพิจารณานำระบบการประเมินคุณภาพรับรองมาตรฐานของโรงพยาบาลมาปรับใช้ เพราะทำให้มีความเชื่อมโยงระหว่างกัน
ทั้งนี้ หลังการอภิปรายที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 149 ต่อ 4 เสียง และงดออกเสียง 19 เสียง