นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า ยิ่งเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งในปี 60 มากเท่าใด จะมีผู้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะนายทักษิณ ชิณวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อออกมาพูด บริวารก็ขยับเขยื้อนรับกันเป็นลูกระนาด มีลักษณะการตอบโต้ที่รุนแรงและมีทีท่าว่าจะไม่ปล่อยให้ฝ่าย คสช.ขับเคลื่อนไปฝ่ายเดียว คงออกมาตีคู่กับการทำงานของ คสช. แต่เชื่อว่าการออกมาเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่น่าวิตกกังวล เพราะอย่างไรนายทักษิณและพรรคพวกก็ไม่เห็นด้วยกับ คสช.อยู่แล้ว ซึ่งคสช. และแม่น้ำ 5 สาย จะต้องเร่งขับเคลื่อนการทำงานแข่งกับข้อกล่าวหาโจมตีโดยเฉพาะการปฏิรูปประเทศ ควรจะประกาศออกมาให้ชัดเจนว่าจะทำอะไรในเรื่องใหญ่ ๆ 4-5 เรื่อง ให้เสร็จในระยะเวลา 1 ปีที่เหลือ ต้องจัดลำดับความสำคัญและบอกกับประชาชนไปว่าจะดำเนินการเสร็จเมื่อใด
ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญก็ประกาศให้ชัดเจนว่า ต้องการให้การปฏิวัติครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย และไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีกแล้ว ก่อนจะส่งต่ออำนาจจะต้องวางหลักเกณฑ์กติกาให้มั่นใจว่า ความเลวร้ายทางการเมืองแบบเก่าจะไม่เกิดขึ้นอีก จึงควรวางกลไกให้บ้านเมืองมีความมั่นคง สงบเรียบร้อย และเป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืนในอนาคตแบบค่อยเป็นค่อยไปและเมื่อมั่นใจแล้วภายในระยะเวลา 2-4 ปีก็ให้เป็นประชาธิปไตยแบบสากลทั่วไป และออกแบบประเทศไม่ให้กลับมาเข้าสู่วงจรอุบาทว์ เพราะจะเป็นความเสียหายของ คสช.ที่ทำแล้วไม่เสร็จสะเด็ดน้ำ
ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญก็ประกาศให้ชัดเจนว่า ต้องการให้การปฏิวัติครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย และไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีกแล้ว ก่อนจะส่งต่ออำนาจจะต้องวางหลักเกณฑ์กติกาให้มั่นใจว่า ความเลวร้ายทางการเมืองแบบเก่าจะไม่เกิดขึ้นอีก จึงควรวางกลไกให้บ้านเมืองมีความมั่นคง สงบเรียบร้อย และเป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืนในอนาคตแบบค่อยเป็นค่อยไปและเมื่อมั่นใจแล้วภายในระยะเวลา 2-4 ปีก็ให้เป็นประชาธิปไตยแบบสากลทั่วไป และออกแบบประเทศไม่ให้กลับมาเข้าสู่วงจรอุบาทว์ เพราะจะเป็นความเสียหายของ คสช.ที่ทำแล้วไม่เสร็จสะเด็ดน้ำ