นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งทั่วประเทศ ว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน กรณีภัยแล้ง 15 จังหวัด 60 ภำเภอ 278 ตำบล 2,369 หมู่บ้าน แยกเป็นพื้นที่ภาคเหนือ 6 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ภาคกลาง 2 จังหวัด และภาคตะวันออก 3 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ พะเยา สุโขทัย นครสวรรค์ น่าน นครราชสีมา นครพนม มหาสารคาม บุรีรัมย์ กาญจนบุรี เพชรบุรี จันทบุรี สระแก้ว และจังหวัดชลบุรี
สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินจากภัยแล้ง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยยังคงประสานการทำงานร่วมกับกองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดหาน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การจัดหาเครื่องสูบน้ำ การสร้างฝาย และการขุดลอกคลองเพื่อเพิ่มการกักเก็บน้ำ รวมทั้งการทำฝนหลวงเพื่อเติมน้ำในเขื่อนหลัก เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ตลอดช่วงหน้าแล้งนี้
สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินจากภัยแล้ง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยยังคงประสานการทำงานร่วมกับกองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดหาน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การจัดหาเครื่องสูบน้ำ การสร้างฝาย และการขุดลอกคลองเพื่อเพิ่มการกักเก็บน้ำ รวมทั้งการทำฝนหลวงเพื่อเติมน้ำในเขื่อนหลัก เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ตลอดช่วงหน้าแล้งนี้
