เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 4/2559 มีมติอายัดทรัพย์คดีฉ้อโกงประชาชน (แชร์ลอตเตอรี่) กว่า 100 รายการ รวมเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท
สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจาก ปปง. ได้รับการร้องเรียนว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ ครูเลย จำกัด และสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องถูกบริษัท เทวาสิทธิ พิฆเนศ จำกัด โดย นายศรีสุข รุ่งวิสัย อดีต ส.ว.สรรหา นำเงินของสหกรณ์ฯ ไปใช้ในกิจการค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล และสลากพิเศษการกุศล เพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิชอบโดยทุจริต ขายสลากเกินราคา
ทั้งนี้จากการตรวจสอบหลักฐานจาก ปปง. พบว่า บริษัทเทวาสิทธิ พิฆเนศ จำกัด โดย นายศรีสุข ไม่ใช่คู่สัญญา และไม่ได้โควตาสลากจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ นายศรีสุข ได้ทำสัญญาซื้อขายสลากกับสหกรณ์ต่างๆ คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกรมสามัญศึกษาจังหวัดเลย จำกัด 3 สัญญา 25,000 เล่ม สหกรณ์ออมทรัพย์ ครูเลย จำกัด 20,000 เล่ม และสหกรณ์การเกษตรวังสะพุง จำกัด 5,000 เล่ม แต่สุดท้ายไม่สามารถรวบรวมสลากได้ตามสัญญา ทำให้เกิดการหมุนเวียนไม่ทัน และการรับซื้อมีราคาแพงขึ้น ต่อมา เมื่อ บ.เทวาสิทธิ พิฆเนศ ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงได้โฆษณาเชิญชวนประชาชนให้ร่วมลงทุนซื้อสลากมาขาย โดยอ้างว่ามีโควตาสลากฯ จำนวนมาก และเสนอผลตอบแทนส่วนต่างสูงถึงฉบับละ 10 บาท ทำให้มีผู้หลงเชื่อร่วมลงทุน อีกทั้งยังมีการไปทำสัญญากับสหกรณ์อื่นเพิ่มเติมเพื่อนำเงินมาหมุนเวียน โดยที่สหกรณ์เหล่านั้นไม่เคยได้รับสลากเลย
“พฤติการณ์ดังกล่าวจึงเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน สำหรับทรัพย์สินของบริษัท เทวาสิทธิ พิฆเนศ และนายศรีสุขกับพวก ที่ถูกอายัดไว้ชั่วคราว 100 รายการ ประกอบด้วย โฉนดที่ดินหนองตางู บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ 92 รายการ โฉนดที่ดินที่ ต.บางเมือง และ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 4 รายการ และอาคารชุดไดมอนด์ รัชดา ห้วยขวาง กทม. 4 รายการ รวมกว่า 300 ล้านบาท” เลขาธิการ ปปง. กล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการ ปปง.ยังมีมติอายัดทรัพย์สินเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรไทยกับพวก ที่หลอกให้ประชาชนสมัครเป็นสมาชิกและเปิดบัญชีกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.) แต่ไม่ได้ดำเนินกิจการและมีผลกำไรจริง ซึ่งจากรายงานการทำธุรกรรม พบว่า เครือข่ายฯ กับพวก ได้เปิดบัญชีกับ ธ.ก.ส.หลายพื้นที่ รวม 19 สาขา 146 บัญชี มีการเสนอผลตอบแทนให้แก่สมาชิกในลักษณะที่สูงเกินจริง มีการจัดสัมมนาและให้เปิดบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. นำเงินเข้าบัญชีของเครือข่ายเป็นประจำทุกเดือน อีกทั้งยังมีการตั้งเครือข่ายประจำจังหวัด เพื่อให้หาสมาชิกเข้ามาเป็นเครือข่ายเพิ่ม พฤติกรรมดังกล่าว น่าเชื่อว่าเป็นเพียงการมุ่งหาสมาชิกเพื่อการระดมเงินค่าสมัครมาหมุนเวียน เข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชน จึงมีมติให้อายัดทรัพย์ไว้ 146 รายการ เป็นเงินประมาณ 6 แสนบาท
สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจาก ปปง. ได้รับการร้องเรียนว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ ครูเลย จำกัด และสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องถูกบริษัท เทวาสิทธิ พิฆเนศ จำกัด โดย นายศรีสุข รุ่งวิสัย อดีต ส.ว.สรรหา นำเงินของสหกรณ์ฯ ไปใช้ในกิจการค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล และสลากพิเศษการกุศล เพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิชอบโดยทุจริต ขายสลากเกินราคา
ทั้งนี้จากการตรวจสอบหลักฐานจาก ปปง. พบว่า บริษัทเทวาสิทธิ พิฆเนศ จำกัด โดย นายศรีสุข ไม่ใช่คู่สัญญา และไม่ได้โควตาสลากจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่ นายศรีสุข ได้ทำสัญญาซื้อขายสลากกับสหกรณ์ต่างๆ คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกรมสามัญศึกษาจังหวัดเลย จำกัด 3 สัญญา 25,000 เล่ม สหกรณ์ออมทรัพย์ ครูเลย จำกัด 20,000 เล่ม และสหกรณ์การเกษตรวังสะพุง จำกัด 5,000 เล่ม แต่สุดท้ายไม่สามารถรวบรวมสลากได้ตามสัญญา ทำให้เกิดการหมุนเวียนไม่ทัน และการรับซื้อมีราคาแพงขึ้น ต่อมา เมื่อ บ.เทวาสิทธิ พิฆเนศ ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงได้โฆษณาเชิญชวนประชาชนให้ร่วมลงทุนซื้อสลากมาขาย โดยอ้างว่ามีโควตาสลากฯ จำนวนมาก และเสนอผลตอบแทนส่วนต่างสูงถึงฉบับละ 10 บาท ทำให้มีผู้หลงเชื่อร่วมลงทุน อีกทั้งยังมีการไปทำสัญญากับสหกรณ์อื่นเพิ่มเติมเพื่อนำเงินมาหมุนเวียน โดยที่สหกรณ์เหล่านั้นไม่เคยได้รับสลากเลย
“พฤติการณ์ดังกล่าวจึงเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน สำหรับทรัพย์สินของบริษัท เทวาสิทธิ พิฆเนศ และนายศรีสุขกับพวก ที่ถูกอายัดไว้ชั่วคราว 100 รายการ ประกอบด้วย โฉนดที่ดินหนองตางู บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ 92 รายการ โฉนดที่ดินที่ ต.บางเมือง และ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 4 รายการ และอาคารชุดไดมอนด์ รัชดา ห้วยขวาง กทม. 4 รายการ รวมกว่า 300 ล้านบาท” เลขาธิการ ปปง. กล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการ ปปง.ยังมีมติอายัดทรัพย์สินเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรไทยกับพวก ที่หลอกให้ประชาชนสมัครเป็นสมาชิกและเปิดบัญชีกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.) แต่ไม่ได้ดำเนินกิจการและมีผลกำไรจริง ซึ่งจากรายงานการทำธุรกรรม พบว่า เครือข่ายฯ กับพวก ได้เปิดบัญชีกับ ธ.ก.ส.หลายพื้นที่ รวม 19 สาขา 146 บัญชี มีการเสนอผลตอบแทนให้แก่สมาชิกในลักษณะที่สูงเกินจริง มีการจัดสัมมนาและให้เปิดบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. นำเงินเข้าบัญชีของเครือข่ายเป็นประจำทุกเดือน อีกทั้งยังมีการตั้งเครือข่ายประจำจังหวัด เพื่อให้หาสมาชิกเข้ามาเป็นเครือข่ายเพิ่ม พฤติกรรมดังกล่าว น่าเชื่อว่าเป็นเพียงการมุ่งหาสมาชิกเพื่อการระดมเงินค่าสมัครมาหมุนเวียน เข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชน จึงมีมติให้อายัดทรัพย์ไว้ 146 รายการ เป็นเงินประมาณ 6 แสนบาท