ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้น 4.9% หลังจากมีการคาดการณ์ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อจำกัดการผลิตในการประชุมเดือนนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับสัญญาณว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหรือไม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,000.36 จุด เพิ่มขึ้น 36.26 จุด หรือ +0.21% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,674.38 จุด เพิ่มขึ้น 25.56 จุด หรือ +0.55% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 1,989.26 จุด เพิ่มขึ้น 10.00 จุด หรือ +0.51%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นตั้งแต่เปิดการซื้อขาย โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นไปยืนเหนือระดับ 17,000 จุด เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 4.9% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 4.5 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 มี.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงจำกัดการผลิตในการประชุมเดือนนี้ โดยสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซียจะประชุมกันในวันที่ 20 มี.ค. เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการผลักดันราคาน้ำมันขึ้น หลังจากที่ทรุดตัวลงก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันได้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเชฟรอน ปรับขึ้น 4.6% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 7.7% หุ้นดาวอน เอนเนอร์จี ปรับขึ้น 6.8% และหุ้นนิวฟิลด์ เอ็กซ์พลอเรชัน ทะยานขึ้น 5.8%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ และหุ้นอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1%
นักลงทุนจับตาดูการประชุม ECB ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม โดยอาจจะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งขณะนี้มีวงเงินอยู่ที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนก.พ. และราคาส่งออกและนำเข้าเดือนก.พ.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,000.36 จุด เพิ่มขึ้น 36.26 จุด หรือ +0.21% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,674.38 จุด เพิ่มขึ้น 25.56 จุด หรือ +0.55% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 1,989.26 จุด เพิ่มขึ้น 10.00 จุด หรือ +0.51%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นตั้งแต่เปิดการซื้อขาย โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นไปยืนเหนือระดับ 17,000 จุด เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 4.9% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 4.5 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 มี.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงจำกัดการผลิตในการประชุมเดือนนี้ โดยสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซียจะประชุมกันในวันที่ 20 มี.ค. เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการผลักดันราคาน้ำมันขึ้น หลังจากที่ทรุดตัวลงก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันได้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเชฟรอน ปรับขึ้น 4.6% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 7.7% หุ้นดาวอน เอนเนอร์จี ปรับขึ้น 6.8% และหุ้นนิวฟิลด์ เอ็กซ์พลอเรชัน ทะยานขึ้น 5.8%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ และหุ้นอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1%
นักลงทุนจับตาดูการประชุม ECB ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม โดยอาจจะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งขณะนี้มีวงเงินอยู่ที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนก.พ. และราคาส่งออกและนำเข้าเดือนก.พ.