เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ “หลวงพี่น้ำฝน” เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม กล่าวถึงกรณีที่มีคนบางกลุ่มนำภาพตัดต่อเป็นภาพ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ “สมเด็จช่วง” กับภาพของหลวงพี่น้ำฝน เอาไว้คู่กัน เขียนข้อความเชิงล้อเลียนว่า “ฝนไม่ทิ้งช่วง” นำไปเผยแพร่ในโลกโซเชียลฯ ว่าการ
กระทำดังกล่าว ไม่ถือโทษโกรธเคืองกัน และก็ได้บอกฝ่ายกฎหมายไปแล้วว่า ไม่ต้องไปดำเนินคดีกับคนเหล่านั้น มองว่าเป็นการกระทำที่ขาดการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ และขาดเหตุผล แต่อยากเตือนสติว่าการจะทำอะไรขอให้ดูสักนิดว่า บุคคลที่กำลังพูดถึงและตัดต่อภาพนั้น เป็นพระสงฆ์ ซึ่งไม่สมควร แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร และหวังว่าสักวันหนึ่งคงจะเข้าใจในเรื่องราวที่เกิดขึ้น
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า แต่ถ้าจะให้มองในมุมดี คำว่า “ฝนไม่ทิ้งช่วง” ผู้บรรยายอาจเป็นพระสงฆ์ ต้องการบรรยายธรรมให้กำลังใจชาวบ้าน ให้เข้าใจง่ายและชวนฟัง เพียงแค่คำบรรยายแต่ไม่มีภาพประกอบคงไม่มีแรงจูงใจจึงนำภาพมาตัดต่อ นำมาผนวกรวมกัน เป็นการเล่นภาพ เล่นคำ ชวนให้ศึกษาธรรมะในบทนี้เพื่อเป็นการให้กำลังใจชาวนาชาวไร่ที่ต้องใช้น้ำในภาคการเกษตร ซึ่งภัยแล้งตอนนี้มีผลกระทบต่อการเกษตร เป็นภัยแล้งที่เกิดจากฝนแล้ง และฝนทิ้งช่วง จึงทำภาพล้อเลียนเพื่อแทรก ธรรมกุศโลบาย เข้าไป อันเป็นที่มาของคำว่า “ฝนไม่ทิ้งช่วง”
“ส่วนเรื่องกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอตรวจสอบรถยนต์แพนเธอร์ อาตมาพร้อมรับฟังคำตอบทุกอย่างว่าจะออกมาแบบไหน เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจ และตอนนี้ก็ได้นำรถยนต์แพนเธอร์คันเจ้าปัญหามาตั้งไว้ที่หน้าส้วมหรูภายในวัด เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้รถยนต์โบราณ เป็นกุศโลบายให้คนรุ่นใหม่ๆ เข้าวัด” หลวงพี่น้ำฝน กล่าว
กระทำดังกล่าว ไม่ถือโทษโกรธเคืองกัน และก็ได้บอกฝ่ายกฎหมายไปแล้วว่า ไม่ต้องไปดำเนินคดีกับคนเหล่านั้น มองว่าเป็นการกระทำที่ขาดการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ และขาดเหตุผล แต่อยากเตือนสติว่าการจะทำอะไรขอให้ดูสักนิดว่า บุคคลที่กำลังพูดถึงและตัดต่อภาพนั้น เป็นพระสงฆ์ ซึ่งไม่สมควร แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร และหวังว่าสักวันหนึ่งคงจะเข้าใจในเรื่องราวที่เกิดขึ้น
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า แต่ถ้าจะให้มองในมุมดี คำว่า “ฝนไม่ทิ้งช่วง” ผู้บรรยายอาจเป็นพระสงฆ์ ต้องการบรรยายธรรมให้กำลังใจชาวบ้าน ให้เข้าใจง่ายและชวนฟัง เพียงแค่คำบรรยายแต่ไม่มีภาพประกอบคงไม่มีแรงจูงใจจึงนำภาพมาตัดต่อ นำมาผนวกรวมกัน เป็นการเล่นภาพ เล่นคำ ชวนให้ศึกษาธรรมะในบทนี้เพื่อเป็นการให้กำลังใจชาวนาชาวไร่ที่ต้องใช้น้ำในภาคการเกษตร ซึ่งภัยแล้งตอนนี้มีผลกระทบต่อการเกษตร เป็นภัยแล้งที่เกิดจากฝนแล้ง และฝนทิ้งช่วง จึงทำภาพล้อเลียนเพื่อแทรก ธรรมกุศโลบาย เข้าไป อันเป็นที่มาของคำว่า “ฝนไม่ทิ้งช่วง”
“ส่วนเรื่องกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอตรวจสอบรถยนต์แพนเธอร์ อาตมาพร้อมรับฟังคำตอบทุกอย่างว่าจะออกมาแบบไหน เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจ และตอนนี้ก็ได้นำรถยนต์แพนเธอร์คันเจ้าปัญหามาตั้งไว้ที่หน้าส้วมหรูภายในวัด เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้รถยนต์โบราณ เป็นกุศโลบายให้คนรุ่นใหม่ๆ เข้าวัด” หลวงพี่น้ำฝน กล่าว