เกาหลีเหนือยิงจรวดพิสัยใกล้ 6 ลูกลงทะเลเมื่อวันพฤหัสฯ (3) ท้าทายนานาชาติ ไม่กี่ชั่วโมงหลังยูเอ็นประกาศมาตรการแซงก์ชันขั้นรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อสั่งสอนที่โสมแดงทดสอบนิวเคลียร์และยิงจรวดเมื่อต้นปี
การแสดงแสนยานุภาพทางทหารแบบจำกัดกลายเป็นการตอบโต้ปกติของเกาหลีเหนือต่อแรงกดดันของนานาชาติกรณีโครงการนิวเคลียร์ไปจนถึงปัญหาสิทธิมนุษยชน
วันพฤหัสฯ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงว่า มีกระสุนยิง 6 ลูก ซึ่งประกอบด้วยจรวดและขีปนาวุธนำวิถี ยิงลงทะเลห่างจากชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาหลีเหนือราว 100-150 กิโลเมตร เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. (8.00 น. ตามเวลาไทย)
หง เล่ย โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวถึงเรื่องนี้โดยแสดงความหวังว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะระงับการดำเนินการที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ลงมติเอกฉันท์รับรองมาตรการลงโทษใหม่ต่อเปียงยางเมื่อคืนวันพุธ (2) หลังการหารือเคร่งเครียด 7 สัปดาห์ระหว่างอเมริกากับจีน พันมิตรหนึ่งเดียวของเกาหลีเหนือ
มาตรการลงโทษครั้งใหม่ถือว่า รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยกำหนดให้ทุกประเทศต้องตรวจสอบสินค้าที่ไปยังและออกจากเกาหลีเหนือ ทั้งที่สนามบินและท่าเรือ รวมทั้งจำกัดการส่งออกถ่านหิน เหล็ก แร่เหล็ก และแร่ธาตุอื่นๆ จากเกาหลีเหนือ และห้ามจัดส่งเชื้อเพลิงการบิน ซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงสำหรับจรวดให้โสมแดง
นอกจากนั้น ยังมีการจำกัดด้านการธนาคารเข้มงวดขึ้น และรัฐบาลของประเทศต่างๆ ต้องแบนเที่ยวบินที่สงสัยว่าขนสินค้าต้องห้ามให้เกาหลีเหนือ รวมทั้งเพิ่มรายชื่อบุคคล 16 คน และนิติบุคคล 12 แห่งในบัญชีดำ ซึ่งรวมถึงสำนักงานอวกาศนาดาและหน่วยงานสายลับของเกาหลีเหนือ
การแสดงแสนยานุภาพทางทหารแบบจำกัดกลายเป็นการตอบโต้ปกติของเกาหลีเหนือต่อแรงกดดันของนานาชาติกรณีโครงการนิวเคลียร์ไปจนถึงปัญหาสิทธิมนุษยชน
วันพฤหัสฯ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงว่า มีกระสุนยิง 6 ลูก ซึ่งประกอบด้วยจรวดและขีปนาวุธนำวิถี ยิงลงทะเลห่างจากชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาหลีเหนือราว 100-150 กิโลเมตร เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. (8.00 น. ตามเวลาไทย)
หง เล่ย โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวถึงเรื่องนี้โดยแสดงความหวังว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะระงับการดำเนินการที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ลงมติเอกฉันท์รับรองมาตรการลงโทษใหม่ต่อเปียงยางเมื่อคืนวันพุธ (2) หลังการหารือเคร่งเครียด 7 สัปดาห์ระหว่างอเมริกากับจีน พันมิตรหนึ่งเดียวของเกาหลีเหนือ
มาตรการลงโทษครั้งใหม่ถือว่า รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยกำหนดให้ทุกประเทศต้องตรวจสอบสินค้าที่ไปยังและออกจากเกาหลีเหนือ ทั้งที่สนามบินและท่าเรือ รวมทั้งจำกัดการส่งออกถ่านหิน เหล็ก แร่เหล็ก และแร่ธาตุอื่นๆ จากเกาหลีเหนือ และห้ามจัดส่งเชื้อเพลิงการบิน ซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงสำหรับจรวดให้โสมแดง
นอกจากนั้น ยังมีการจำกัดด้านการธนาคารเข้มงวดขึ้น และรัฐบาลของประเทศต่างๆ ต้องแบนเที่ยวบินที่สงสัยว่าขนสินค้าต้องห้ามให้เกาหลีเหนือ รวมทั้งเพิ่มรายชื่อบุคคล 16 คน และนิติบุคคล 12 แห่งในบัญชีดำ ซึ่งรวมถึงสำนักงานอวกาศนาดาและหน่วยงานสายลับของเกาหลีเหนือ