นายธีรพล ขุนเมือง โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการจ้างงานเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง ว่า พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานดำเนินการดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนด้านอาชีพที่ว่างเว้นจากการเกษตร โดยส่งเสริมการจ้างงานเพื่อสร้างรายได้ ซึ่งสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานได้จัดสรรงบประมาณกว่า 95 ล้านบาท ให้สำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพด้วยการจ้างทำงานชั่วคราวเกี่ยวกับสาธารณประโยชน์ และพัฒนาทักษะฝีมือหรือฝึกอาชีพ เพื่อให้แรงงานมีรายได้และสามารถต่อยอดอาชีพ ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสและทางเลือกในการประกอบอาชีพให้มีรายได้สูงขึ้น
นายธีรพล กล่าวอีกว่า การจ้างงานดังกล่าวจะดำเนินการ 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมจ้างงานเร่งด่วน เน้นการจ้างงานเกี่ยวกับสาธารณประโยชน์ เช่น ขุดลอกคูคลอง โดยผู้ร่วมกิจกรรมจะได้รับค่าตอบแทนคนละ 150 บาท สำหรับกิจกรรมพัฒนาทักษะฝีมือ นอกจากได้ฝึกอาชีพตามที่แต่ละพื้นที่ต้องการแล้ว ยังได้รับเบี้ยเลี้ยงระหว่างฝึกคนละ 120 บาทต่อวันด้วย โดยหลักสูตรการฝึกศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงงานภาคและจังหวัดจะพิจารณาตามความเหมาะสม เบื้องต้นได้จัดสรรงบประมาณ จำนวนเงิน 51.21 ล้านบาท เพื่อให้ 46 จังหวัด ได้เข้าร่วมบูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบปัญหาภัยแล้ง
นายธีรพล กล่าวอีกว่า การจ้างงานดังกล่าวจะดำเนินการ 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมจ้างงานเร่งด่วน เน้นการจ้างงานเกี่ยวกับสาธารณประโยชน์ เช่น ขุดลอกคูคลอง โดยผู้ร่วมกิจกรรมจะได้รับค่าตอบแทนคนละ 150 บาท สำหรับกิจกรรมพัฒนาทักษะฝีมือ นอกจากได้ฝึกอาชีพตามที่แต่ละพื้นที่ต้องการแล้ว ยังได้รับเบี้ยเลี้ยงระหว่างฝึกคนละ 120 บาทต่อวันด้วย โดยหลักสูตรการฝึกศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงงานภาคและจังหวัดจะพิจารณาตามความเหมาะสม เบื้องต้นได้จัดสรรงบประมาณ จำนวนเงิน 51.21 ล้านบาท เพื่อให้ 46 จังหวัด ได้เข้าร่วมบูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบปัญหาภัยแล้ง
