สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ ถึงความคืบหน้าหลังซูเปอร์ไซโคลนวินสตันพัดกระหน่ำฟิจิเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 29 รายแล้ว
นายเอวาน เพอร์ริน โฆษกรัฐบาลฟิจิ เปิดเผยว่า พบผู้เสียชีวิต 8 ราย บนเกาะโคโร เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศ เมื่อวันจันทร์ โดยสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ถูกแรงพายุพัดทำลายเสียหายจนราบเป็นหน้ากลอง
ขณะที่นายสตีเฟน โอไบรอัน รองเลขาธิการสหประชาชาติ ฝ่ายกิจการมนุษยธรรมและผู้ประสานงานบรรเทาสถานการณ์ฉุกเฉิน กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นรุนแรงมาก หมู่บ้านหลายแห่งถูกทำลาย ทั้งบ้านเรือนและพื้นที่เพาะปลูก รวมถึงระบบไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายจากพายุและที่ถูกตัดในบางจุดเพื่อป้องกันอันตราย โดยกระแสไฟฟ้าและระบบการสื่อสารในบางจุดสามารถกู้คืนได้แล้ว แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ยังเข้าไม่ถึง โดยเฉพาะตามเกาะต่างๆ ที่กระจัดกระจาย ขณะที่ประชาชนกว่า 8,100 คน ยังคงพักพิงอยู่ตามศูนย์อพยพต่างๆ กว่า 70 แห่งที่ทางการจัดไว้ให้ การแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์จำเป็นเบื้องต้นไปยังผู้ประสบภัยในจุดต่างๆ นับเป็นภารกิจเร่งด่วน ขณะที่การขาดแคลนน้ำสะอาดเป็นอีกปัญหาสำคัญ
ทั้งนี้ จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้น คาดว่าอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าฟิจิจะฟื้นกลับสู่สภาพปกติได้
ขณะที่ทางการฟิจิได้ประกาศภาวะภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นเวลา 1 เดือน และมีการร้องขอความช่วยเหลือไปยังนานาชาติ โดยรัฐบาลออสเตรเลียอนุมัติความช่วยเหลือมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 128.2 ล้านบาท พร้อมด้วยเครื่องบิน พี-3 โอไรออน และเฮลิคอปเตอร์ เอ็มอาร์เอช-90 เพื่อร่วมในภารกิจช่วยเหลือ ขณะที่ทางการนิวซีแลนด์ให้ความช่วยเหลือมูลค่า 2.2 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ พร้อมด้วยเครื่องบินเฮอร์คิวลิส ซี-130 ในการลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ และเครื่องบินสำรวจทางอากาศในจุดห่างไกลที่ความช่วยเหลือยังไปไม่ถึง เพื่อประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ พายุวินสตัน มีความเร็วลมสูงสุด 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดขึ้นฝั่งฟิจิเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นพายุที่มีความรุนแรงระดับ 5 ลูกแรกในประวัติศาสตร์ของฟิจิ และเชื่อว่าเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่ฟิจิเคยเผชิญ โดยพายุไซโคลนที่รุนแรงมากก่อนหน้านี้คือพายุเอริค เมื่อปี 2536
นายเอวาน เพอร์ริน โฆษกรัฐบาลฟิจิ เปิดเผยว่า พบผู้เสียชีวิต 8 ราย บนเกาะโคโร เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศ เมื่อวันจันทร์ โดยสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ถูกแรงพายุพัดทำลายเสียหายจนราบเป็นหน้ากลอง
ขณะที่นายสตีเฟน โอไบรอัน รองเลขาธิการสหประชาชาติ ฝ่ายกิจการมนุษยธรรมและผู้ประสานงานบรรเทาสถานการณ์ฉุกเฉิน กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นรุนแรงมาก หมู่บ้านหลายแห่งถูกทำลาย ทั้งบ้านเรือนและพื้นที่เพาะปลูก รวมถึงระบบไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายจากพายุและที่ถูกตัดในบางจุดเพื่อป้องกันอันตราย โดยกระแสไฟฟ้าและระบบการสื่อสารในบางจุดสามารถกู้คืนได้แล้ว แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ยังเข้าไม่ถึง โดยเฉพาะตามเกาะต่างๆ ที่กระจัดกระจาย ขณะที่ประชาชนกว่า 8,100 คน ยังคงพักพิงอยู่ตามศูนย์อพยพต่างๆ กว่า 70 แห่งที่ทางการจัดไว้ให้ การแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์จำเป็นเบื้องต้นไปยังผู้ประสบภัยในจุดต่างๆ นับเป็นภารกิจเร่งด่วน ขณะที่การขาดแคลนน้ำสะอาดเป็นอีกปัญหาสำคัญ
ทั้งนี้ จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้น คาดว่าอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าฟิจิจะฟื้นกลับสู่สภาพปกติได้
ขณะที่ทางการฟิจิได้ประกาศภาวะภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นเวลา 1 เดือน และมีการร้องขอความช่วยเหลือไปยังนานาชาติ โดยรัฐบาลออสเตรเลียอนุมัติความช่วยเหลือมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 128.2 ล้านบาท พร้อมด้วยเครื่องบิน พี-3 โอไรออน และเฮลิคอปเตอร์ เอ็มอาร์เอช-90 เพื่อร่วมในภารกิจช่วยเหลือ ขณะที่ทางการนิวซีแลนด์ให้ความช่วยเหลือมูลค่า 2.2 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ พร้อมด้วยเครื่องบินเฮอร์คิวลิส ซี-130 ในการลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ และเครื่องบินสำรวจทางอากาศในจุดห่างไกลที่ความช่วยเหลือยังไปไม่ถึง เพื่อประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ พายุวินสตัน มีความเร็วลมสูงสุด 325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดขึ้นฝั่งฟิจิเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นพายุที่มีความรุนแรงระดับ 5 ลูกแรกในประวัติศาสตร์ของฟิจิ และเชื่อว่าเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่ฟิจิเคยเผชิญ โดยพายุไซโคลนที่รุนแรงมากก่อนหน้านี้คือพายุเอริค เมื่อปี 2536