เชียงใหม่ระวังเข้มเผาป่า หวั่นเกิดปัญหาหมอกควันหลังหมดหนาว

นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมูบ้าน (อสม.) ทุกพื้นที่ร่วมกันเฝ้าระวัง สอดส่องดูแลไม่ให้ราษฎรเผาพื้นที่ที่ตนถือครอง ห้ามมิให้ผู้ใดเผากิ่งไม้ใบไม้ เผาสิ่งเหลือใช้ทางการเกษตร ขยะมูลฝอย หากพบว่ามีการฝ่าฝืนให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด โดยจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 150,000 บาท พร้อมทั้งได้ตั้งรางวัลสำหรับผู้ที่มีเบาะแสนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดจะมีรางวัลนำจับรายละ 5,000 บาท สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่หมายเลขโทรศัพท์ 053 112-236 หรือ 191 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งการดำเนินการนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหลังหมดหน้าหนาวแล้วก็เกิดมลพิษทางอากาศทันที ค่ามลพิษทางอากาศพุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ตรวจวัดด้วยเครื่อง DustDETEC อยู่ที่ 100.39 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ณ เวลา 09.56 น.สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยวัดค่ามาตรฐานฝุ่นละลองขนาดเล็กในอากาศ PM10 อยู่ที่ 120ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น
ด้านนายสุทิน จันทร์งาม นายอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งให้ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วควบคุมไฟป่า ประกอบด้วยปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอาสาหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม 2 (ปางเติม) หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม 47 (สบวิน) และ อบต.แม่วิน ออกปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่บ้านห้วยหยวก หมู่ 7 ต.แม่วิน ลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติการณ์ควบคุมไฟป่าในพื้นที่ และลุกลามเป็นวงกว้าง โดยมีการประสานขอเฮลิคอปเตอร์พร้อมระดมเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย เข้าไปช่วยอำนวยการดับไฟป่า กระทั่งสามารถจำกัดพื้นที่ไฟป่าอยู่ในวงจำกัด โดยขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการพบนายกอชิ เล่อพอ อายุ 54 ปี ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง กำลังจุดไฟเผาป่าจึงเข้าจับกุมส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีข้อหาจุดไฟเผาป่า