วานนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 21.00 น. ร.ต.อ.วัฒนาทร บำรุงถิ่น พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันตายบริเวณซุ้มขายอาหารตามสั่งและอาหารอีสาน ชื่อ “ตำนานป้าปุ้ย” ริมถนนปากทางเข้าหมู่บ้านภูเก็ตโฮปแลนด์ ใกล้กับตลาดนัดสี่กอ ต.กะทู้ อ.กะทู้ หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และพร้อมด้วย พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ รอง ผบก.ภ.ภูเก็ต พ.ต.อ.สมคิด บุญรัตน์ ผกก.สส.ภ.ภูเก็ต พ.ต.ท.สมหมาย อ่อนคำ รอง ผกก.สส.ภ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กะทู้ แพทย์เวรโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายหอยสดและอาหารทะเล กับร้านขายอาหารตามสั่งและอาหารอีสาน ตำนานป้าปุ้ย ระหว่างกลางคั้นด้วยซุ้มที่นั่ง 2 ซุ้ม ตรวจสอบบริเวณซุ้มที่นั่งซึ่งติดกับร้านขายหอย พบศพชายไทย ทราบชื่อภายหลังคือ นายพุทธรักษ์ เดชะพันธุ์ อายุ 48 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง เจ้าของบาร์แห่งหนึ่งในพื้นที่ป่าตอง และอาสาสมัครตำรวจกองปราบปราม สวมเสื้อยืดสีเขียวแขนกุด นุ่งกางเกงขายาวลายพรางสีเขียว สภาพศพนั่งอยู่บนเกาอี้ จากการตรวจพิสูจน์ พบถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่หน้าอกซ้าย 1 นัด สะบักหลังอีก 2 นัด ใกล้ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน ตกอยู่ 3 ปลอก และบนเก้าอี้ที่ผู้ตายนั่งยังพบกระเป๋าใส่สัมภาระของผู้ตายอีก 1 ใบด้วย ขณะที่บนโต๊ะมีอาหาร เหล้าบุหรี่และกับแกล้มวางอยู่เกลื่อน ขณะที่โต๊ะติดกันก็พบเหล้า บุหรี่ และกับแกล้มซึ่งยังรับประทานไม่หมดวางอยู่กราดเกลื่อน
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อภายหลัง คือ ด.ต.คมกฤช วิเศษมาก อายุ 48 ปี มานั่งดื่มกินกับกลุ่มเพื่อนได้พักใหญ่ โดยนั่งคนละโต๊ะ ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุนั่งกันประมาณ 6 คน ส่วนกลุ่มผู้ตายนั่งกันประมาณ 5 คน ทั้งคู่ต่างก็รู้จักกัน เนื่องจากผู้ตายเป็นอาสาสมัครตำรวจฯ ขณะผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจ ก่อนเกิดเหตุมีการพูดคุยกันสนุกสนาน จนกระทั่งมีการถกเถียงกันเรื่องอาวุธปืนว่า สามารถจะนำขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ ระหว่างที่โต้เถียงกันอยู่นั้น จู่ๆ ด.ต.คมกฤช ก็เดินออกจากโต๊ะไปยังโต๊ะของผู้ตาย และชักอาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงใส่นายพุทธรักษ์ จำนวน 3 นัดเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว จากนั้นได้หลบหนีไป แต่ต่อมาภายหลังทราบได้เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งทองแล้ว
ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายหอยสดและอาหารทะเล กับร้านขายอาหารตามสั่งและอาหารอีสาน ตำนานป้าปุ้ย ระหว่างกลางคั้นด้วยซุ้มที่นั่ง 2 ซุ้ม ตรวจสอบบริเวณซุ้มที่นั่งซึ่งติดกับร้านขายหอย พบศพชายไทย ทราบชื่อภายหลังคือ นายพุทธรักษ์ เดชะพันธุ์ อายุ 48 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง เจ้าของบาร์แห่งหนึ่งในพื้นที่ป่าตอง และอาสาสมัครตำรวจกองปราบปราม สวมเสื้อยืดสีเขียวแขนกุด นุ่งกางเกงขายาวลายพรางสีเขียว สภาพศพนั่งอยู่บนเกาอี้ จากการตรวจพิสูจน์ พบถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่หน้าอกซ้าย 1 นัด สะบักหลังอีก 2 นัด ใกล้ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน ตกอยู่ 3 ปลอก และบนเก้าอี้ที่ผู้ตายนั่งยังพบกระเป๋าใส่สัมภาระของผู้ตายอีก 1 ใบด้วย ขณะที่บนโต๊ะมีอาหาร เหล้าบุหรี่และกับแกล้มวางอยู่เกลื่อน ขณะที่โต๊ะติดกันก็พบเหล้า บุหรี่ และกับแกล้มซึ่งยังรับประทานไม่หมดวางอยู่กราดเกลื่อน
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อภายหลัง คือ ด.ต.คมกฤช วิเศษมาก อายุ 48 ปี มานั่งดื่มกินกับกลุ่มเพื่อนได้พักใหญ่ โดยนั่งคนละโต๊ะ ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุนั่งกันประมาณ 6 คน ส่วนกลุ่มผู้ตายนั่งกันประมาณ 5 คน ทั้งคู่ต่างก็รู้จักกัน เนื่องจากผู้ตายเป็นอาสาสมัครตำรวจฯ ขณะผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจ ก่อนเกิดเหตุมีการพูดคุยกันสนุกสนาน จนกระทั่งมีการถกเถียงกันเรื่องอาวุธปืนว่า สามารถจะนำขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ ระหว่างที่โต้เถียงกันอยู่นั้น จู่ๆ ด.ต.คมกฤช ก็เดินออกจากโต๊ะไปยังโต๊ะของผู้ตาย และชักอาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงใส่นายพุทธรักษ์ จำนวน 3 นัดเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว จากนั้นได้หลบหนีไป แต่ต่อมาภายหลังทราบได้เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งทองแล้ว
