เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 59 พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วย รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) น.ส.อาภรณ์ แก่นวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ. ) นายอานนท์ เที่ยงตรง ประธานคณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอแบค ในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัยเอแบคคนใหม่ ดร.มัทนา สานติวัตร ผู้ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยเอแบค และคณะกรรมการควบคุมฯ เดินทางไปตรวจเยี่ยมและร่วมประชุม ที่ห้องเกียรติคุณยูเนสโก ชั้น 2 มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตบางนา โดยมีภราดาศิริชัย ฟอนซีกา ผู้บริหารมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และคณะผู้บริหารเข้าร่วมประชุมด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.ดาว์พงษ์ ได้ร่วมหารือกับคณะกรรมการควบคุมฯ และคณะผู้บริหาร ม.อัสสัมชัญ เป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ 47/2559 เรื่อง ให้มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ อยู่ในความควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุม มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดยใช้อำนาจตามมาตรา 86 วรรค 2 แห่ง พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 โดยมีนายอานนท์ เที่ยงตรง ประธานคณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอแบค และหลังจากนั้นคณะกรรมการควบคุมฯ ก็ได้เข้ามาประชุมร่วมกับผู้บริหารของ ม.อัสสัมชัญ วิทยาเขตบางนา แล้ว 1 ครั้ง และคณะกรรมการควบคุมฯ ได้ประชุมที่ สกอ.อีก 1 ครั้ง และทางคณะกรรมการควบคุมฯ กำหนดจะประชุมในวันที่ 9 ก.พ.นี้ ในเวลา 16.00 น. ที่ สกอ. แต่พล.อ.ดาว์พงษ์ ได้เดินทางมานัดประชุมในวันนี้ก่อน
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยม ว่า ในวันนี้ได้มีโอกาสพบกับคณะผู้บริหาร อธิการบดี คณบดี และผอ.สำนักต่าง ๆ ของ ม.อัสสัมชัญ ที่เกี่ยวข้อง ทุกท่านก็ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยตนได้มาสื่อสารให้บุคลากรของ ม.เอแบค เข้าใจว่าจะมาทำอะไรและเหตุที่มาเพราะอะไร ซึ่งทาง ม.เอแบค เองก็ได้เล่าถึงความกังวล ซึ่งหลังจากที่ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันแล้วทางเอแบค ก็ได้เห็นถึงความจริงใจในการเข้ามาแก้ปัญหาของกระทรวงศึกษาธิการในครั้งนี้
"ผมคิดว่างานก็จะเดินไปได้ ผมไม่ได้ยึดติดว่าคณะกรรมการควบคุมฯ จะแก้ไขปัญหานี้นานแค่ไหน ผมบอกกับผู้บริหารของ ม.เอแบค ว่าถ้าเราร่วมมือกันจริงๆ ทุกอย่างก็จะเร็วขึ้น ต้องเคลียร์ปัญหาทุกอย่างให้หมด แก้ข้อสงสัยต่าง ๆ อะไรที่ทำแล้วเอแบคยั่งยืนก็เป็นเป้าหมายร่วมกันที่จะทำ และในการทำงานก็จะมีการแลกเปลี่ยนกัน ไม่ใช่คณะกรรมการควบคุมฯ ทำฝ่ายเดียว การแก้ไขปัญหาจะต้องปรึกษากับทาง ม.เอแบค ด้วย รวมถึงการปรับปรุงกฏระเบียบอะไรขึ้นมา ก็ให้ทำร่วมกับ ม.เอแบค เพื่อให้เกิดผลดีกับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งผมก็คิดว่าน่าเป็นสัญญาณที่ดีในความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้" พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว
สำหรับการหารือวันนี้ ทาง ม.เอแบค อยากได้กรอบเวลาในการทำงานของคณะกรรมการควบคุมฯ แต่ตนยังไม่สามารถให้ได้ในขณะนี้ เพราะต้องได้ข้อมูลจากสภาพที่เป็นอยู่ในแต่ละด้านก่อน แล้วจึงวางแผนการทำงาน เพื่อให้การดำเนินงานเดินไปได้ ไม่สะดุดกับการศึกษาของเด็ก และให้หาสาเหตุของปัญหาที่ทำให้สภามหาวิทยาลัยเดิมขัดแย้งกันว่าเกิดจากอะไร และสร้างความยั่งยืนให้กับ ม.เอแบค รวมกัน ทุกที่มีวัฒนธรรมองค์กร ดังนั้นการทำงานของคณะกรรมการควบคุมฯ จะต้องหารือกับเจ้าของวัฒนธรรมประเพณี เพื่อให้รับทราบถึงแนวทางแก้ไขปัญหา
ส่วนการใช้ ม.90 เพื่อขอคืนอำนาจนั้น ตนแจ้งในผู้บริหารของ ม.เอแบค ว่า มีความจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เสร็จก่อน จึงจะสามารถคืนอำนาจให้ได้ ก็คิดว่าคงไม่ช้า แต่ก็อยู่ที่ข้อมูลและการแก้ปัญหาร่วมกัน ยิ่งให้ข้อมูลเร็วเท่าไหร่ก็คืนให้เร็วเท่านั้น ส่วนข้อมูลการทุจริตก็ต้องมาดูข้อมูล ขณะนี้เป็นเพียงการกล่าวอ้างของสภามหาวิทยาลัยที่แตกเป็นสองเสียง ดังนั้น ก็ต้องเอาข้อมูลมาตรวจสอบกัน ขณะนี้ก็มีข้อมูลที่สองฝ่ายส่งมาให้แล้ว ก็จะใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานที่จะลงไปตรวจสอบ ส่วนการยื่นอุทธรณ์ ขณะนี้ก็ไม่มีฝ่ายใดมายื่นคัดค้านเรื่องการตั้งคณะกรรมการควบคุมฯ ซึ่งตนไม่ได้มีการปิดกั้น
"ขณะนี้ยังไม่สามารถคืนอำนาจการบริหารงานให้ ม.เอแบค ได้ เพราะปัญหาต่างๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่ในการแก้ไขปัญหา ก็จะมีการสอบถามความคิดเห็นจากบุคลากรของ ม.เอแบค ในทุกเรื่อง จะไม่ใช่ดำเนินการกันเองของคณะกรรมการควบคุม ม.เอแบค แต่จะเป็นการทำงานร่วมกันกับผู้บริหารของ ม.เอแบค เนื่องจากทุกที่มีวัฒนธรรมองค์กร ดังนั้นจึงต้องรับฟังความคิดเห็นจากเจ้าขององค์กรนั้นด้วย" รมว.ศธ.กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.ดาว์พงษ์ ได้ร่วมหารือกับคณะกรรมการควบคุมฯ และคณะผู้บริหาร ม.อัสสัมชัญ เป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ 47/2559 เรื่อง ให้มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ อยู่ในความควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุม มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดยใช้อำนาจตามมาตรา 86 วรรค 2 แห่ง พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 โดยมีนายอานนท์ เที่ยงตรง ประธานคณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอแบค และหลังจากนั้นคณะกรรมการควบคุมฯ ก็ได้เข้ามาประชุมร่วมกับผู้บริหารของ ม.อัสสัมชัญ วิทยาเขตบางนา แล้ว 1 ครั้ง และคณะกรรมการควบคุมฯ ได้ประชุมที่ สกอ.อีก 1 ครั้ง และทางคณะกรรมการควบคุมฯ กำหนดจะประชุมในวันที่ 9 ก.พ.นี้ ในเวลา 16.00 น. ที่ สกอ. แต่พล.อ.ดาว์พงษ์ ได้เดินทางมานัดประชุมในวันนี้ก่อน
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยม ว่า ในวันนี้ได้มีโอกาสพบกับคณะผู้บริหาร อธิการบดี คณบดี และผอ.สำนักต่าง ๆ ของ ม.อัสสัมชัญ ที่เกี่ยวข้อง ทุกท่านก็ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยตนได้มาสื่อสารให้บุคลากรของ ม.เอแบค เข้าใจว่าจะมาทำอะไรและเหตุที่มาเพราะอะไร ซึ่งทาง ม.เอแบค เองก็ได้เล่าถึงความกังวล ซึ่งหลังจากที่ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันแล้วทางเอแบค ก็ได้เห็นถึงความจริงใจในการเข้ามาแก้ปัญหาของกระทรวงศึกษาธิการในครั้งนี้
"ผมคิดว่างานก็จะเดินไปได้ ผมไม่ได้ยึดติดว่าคณะกรรมการควบคุมฯ จะแก้ไขปัญหานี้นานแค่ไหน ผมบอกกับผู้บริหารของ ม.เอแบค ว่าถ้าเราร่วมมือกันจริงๆ ทุกอย่างก็จะเร็วขึ้น ต้องเคลียร์ปัญหาทุกอย่างให้หมด แก้ข้อสงสัยต่าง ๆ อะไรที่ทำแล้วเอแบคยั่งยืนก็เป็นเป้าหมายร่วมกันที่จะทำ และในการทำงานก็จะมีการแลกเปลี่ยนกัน ไม่ใช่คณะกรรมการควบคุมฯ ทำฝ่ายเดียว การแก้ไขปัญหาจะต้องปรึกษากับทาง ม.เอแบค ด้วย รวมถึงการปรับปรุงกฏระเบียบอะไรขึ้นมา ก็ให้ทำร่วมกับ ม.เอแบค เพื่อให้เกิดผลดีกับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งผมก็คิดว่าน่าเป็นสัญญาณที่ดีในความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้" พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว
สำหรับการหารือวันนี้ ทาง ม.เอแบค อยากได้กรอบเวลาในการทำงานของคณะกรรมการควบคุมฯ แต่ตนยังไม่สามารถให้ได้ในขณะนี้ เพราะต้องได้ข้อมูลจากสภาพที่เป็นอยู่ในแต่ละด้านก่อน แล้วจึงวางแผนการทำงาน เพื่อให้การดำเนินงานเดินไปได้ ไม่สะดุดกับการศึกษาของเด็ก และให้หาสาเหตุของปัญหาที่ทำให้สภามหาวิทยาลัยเดิมขัดแย้งกันว่าเกิดจากอะไร และสร้างความยั่งยืนให้กับ ม.เอแบค รวมกัน ทุกที่มีวัฒนธรรมองค์กร ดังนั้นการทำงานของคณะกรรมการควบคุมฯ จะต้องหารือกับเจ้าของวัฒนธรรมประเพณี เพื่อให้รับทราบถึงแนวทางแก้ไขปัญหา
ส่วนการใช้ ม.90 เพื่อขอคืนอำนาจนั้น ตนแจ้งในผู้บริหารของ ม.เอแบค ว่า มีความจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เสร็จก่อน จึงจะสามารถคืนอำนาจให้ได้ ก็คิดว่าคงไม่ช้า แต่ก็อยู่ที่ข้อมูลและการแก้ปัญหาร่วมกัน ยิ่งให้ข้อมูลเร็วเท่าไหร่ก็คืนให้เร็วเท่านั้น ส่วนข้อมูลการทุจริตก็ต้องมาดูข้อมูล ขณะนี้เป็นเพียงการกล่าวอ้างของสภามหาวิทยาลัยที่แตกเป็นสองเสียง ดังนั้น ก็ต้องเอาข้อมูลมาตรวจสอบกัน ขณะนี้ก็มีข้อมูลที่สองฝ่ายส่งมาให้แล้ว ก็จะใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานที่จะลงไปตรวจสอบ ส่วนการยื่นอุทธรณ์ ขณะนี้ก็ไม่มีฝ่ายใดมายื่นคัดค้านเรื่องการตั้งคณะกรรมการควบคุมฯ ซึ่งตนไม่ได้มีการปิดกั้น
"ขณะนี้ยังไม่สามารถคืนอำนาจการบริหารงานให้ ม.เอแบค ได้ เพราะปัญหาต่างๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่ในการแก้ไขปัญหา ก็จะมีการสอบถามความคิดเห็นจากบุคลากรของ ม.เอแบค ในทุกเรื่อง จะไม่ใช่ดำเนินการกันเองของคณะกรรมการควบคุม ม.เอแบค แต่จะเป็นการทำงานร่วมกันกับผู้บริหารของ ม.เอแบค เนื่องจากทุกที่มีวัฒนธรรมองค์กร ดังนั้นจึงต้องรับฟังความคิดเห็นจากเจ้าขององค์กรนั้นด้วย" รมว.ศธ.กล่าว