ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก (Nitipong Honark) แสดงทัศนะกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. รวมถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จับตาการเคลื่อนไหวของนักศึกษา โดยเฉพาะในกิจกรรมงานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ในปีนี้ โดยระบุว่า
เห็นข่าวแว้บๆ…
ประเด็น คสช.เพ่งเล็งเรื่องฟุตบอลประเพณี จุฬา ธรรมศาสตร์
ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร…
และฉันก็ไม่รู้ คสช.เพ่งเล็งจริงไหม หรือจริงจังขนาดไหน
นึกถึงสมัยฉันเรียนถาปัด จุฬาฯ ก็ได้ร่วมงานบอลประเพณีนี่ตั้งแต่ปีหนึ่ง…
ได้เข้าไปทำโค้ดแปรอักษรเป็นรูปพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง…
จำได้ลางๆ ว่า รุ่นพี่เป็นคนร่างภาพ รุ่นน้อง ๆ อย่างฉันต้องเอาดินสอสีลงในกระดาษที่เป็นช่องโมเสค ว่าช่องไหนจะสีอะไร โค้ดอะไร…
สมัยนั้นใช้มือเปล่า สมัยนี้คงใช้คอมพ์ทำ
ได้ขึ้นแสตนด์เชียร์ครั้งหนึ่งที่สนามศุภชลาศัย หยิบป้ายแปรอักษร อะไรนี่แหละ…หลังจากปีหนึ่งปีเดียว ก็ไม่ไปขึ้นอีกเลย…ตื่นไม่ทัน เป็นเด็กถาปัดตอนนั้น มักจะตื่นไม่ทันอะไรอะไรหลายอย่าง..
บอลจุฬาธรรมศาสตร์ เป็นเรื่องน่ารักน่าเอ็นดู เกิดขึ้นมาตั้งเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว เข้าใจว่า เกิดตั้งแต่ตอนที่เมืองไทยยังมีมหาวิทยาลัยอยู่สองแห่งนี้เอง…มีทั้งอารมณ์ต้องแข่งขันกัน และอารมณ์เป็นเพื่อนกัน เพราะไม่รู้จะไปเป็นเพื่อนกับมหาวิทยาลัยไหนได้…เป็นเพื่อนรักเพื่อนแข่ง…มีช่วยกัน มีแหย่กัน
ผ่านมาเจ็ดสิบกว่าปี มีมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นมากตามลำดับ จนถึงทุกวันนี้คงเป็นร้อยมหาวิทยาลัยแล้ว….คำว่า มหาวิทยาลัย ไม่ได้ดูโก้หรูสูงส่งขลังขนาดนั้นอีกแล้ว
แต่งานบอลประเพณีเขาก็ยังมีอยู่ เวลาแข่งบอลกันก็เอาจริงเอาจัง ไม่ใช่เล่นเหยาะแหยะ แสตนด์เชียร์ เชียร์ลีดเดอร์ ผู้อัญเชิญพระเกี้ยว ธรรมจักร ฯลฯ รวมทั้งพาเหรดที่ ต้องมีหยิกแกมหยอกการเมือง รัฐบาลในขณะนั้น มาตลอด ไม่มีขาด…
ถ้าหากขาดหายไป คงไม่ครบรสชาติของบอลประเพณี..
ให้เด็กๆ เขาได้สนุก ได้แสดงความคิดของเขากันเถิดครับคุณพี่คุณลุง เขาได้ทำตามประเพณีของเขา ได้หยิกแกมหยอก ได้แสดงความเห็นแบบครีเอทีฟ…ที่สำคัญคือ เขาได้แสดงความเห็นแบบของเขาได้ถูกกาละเทศะ
ฉันก็ดูพวกขบวนพาเหรดล้อการเมืองมาสิบๆปีแล้ว ก็ขำมั่ง ฝืดมั่ง เฉยๆ มั่ง อย่าไปเพ่งเล็งอะไรเค้าเลย
ไม่รู้ว่าไอเดียเพ่งเล็งนี่มาจากใครนะ…แต่แค่มีไอเดียเพ่งเล็งกับกิจกรรมนักศึกษา ในสิ่งที่เขาทำมาเป็นประเพณี ทำในส่วนที่มีรั้วรอบขอบชิด…
แล้วก็เป็นแค่การเล่น การหยอก คุณลุงคุณน้า ขำขันวันเดียวจบ…
จะไปเพ่งเล็งทำไม…เรื่องเล็กมากเลยจ้ะ
ไปเพ่งเล็งมาก ๆ ผู้ใหญ่เองน่ะแหละ จะไม่หล่อ
ปล่อยเด็กๆ ให้เขาเล่นในสนามเขาไปเถิด…ไม่เคยเห็นขบวนล้อการเมืองในบอลประเพณี มันโค่นล้มรัฐบาลได้สักที
เอ็นดูลูกหลานเถิด บางทีอาจได้ไอเดียดี ๆ จากลูกหลาน มีแสบมีคันบ้าง
เด็ก ๆ เขาขอล้อ ขอแซวลุงป้าน้าอา ปีละครั้ง ซึ่งทำมาทุกปีเป็นธรรมดาแล้ว อยู่ในสนามศุภฯ นั่น ไม่มีอะไรต้องเพ่งเล็งดอก แค่ดูว่า มันขำดีไหม เท่านั้นก็พอแล้ว
แต่สำหรับเด็ก ๆ หรือใครก็ตามที่แสดงความเห็นอยู่กระจัดกระจาย ไม่มีอารมณ์ขัน อารมณ์อะไรไม่รู้…..จะเอาอะไรไม่รู้…เออ อันนั้น ค่อยลองไปสอดส่องดู ว่ามีอะไรแอบแฝงไหม
แต่ฉันเชื่อนะ ว่า พาเหรดการเมืองบอลประเพณีจุฬาธรรมศาสตร์ มันมีแต่ความอยากล้อ อยากแสดงออก แต่ไม่น่าจะมีอะไรแอบแฝงไปกว่านัั้น
อย่าเพ่งเล็งเขาเลยนะ ท่านอัครมหาเสนาบดี เสนาบดี อธิการบดี…
เก็บเรื่องเล็ก ให้เป็นเรื่องเล็กเถิด…ท่านเอามาขยาย มันก็ใหญ่ขึ้นไปอีก
ที่ฉันเคืองเล็กน้อยนะ แม่ประไพ….
บอลครั้งนี้…ทีมธรรมศาสตร์ เล่นยกทีมชาติมาครึ่งทีม รวมทั้งเจ้าเมสซี่เจด้วย…
ทีมจุฬาจะไหวไหมอ้ะ…
เห็นข่าวแว้บๆ…
ประเด็น คสช.เพ่งเล็งเรื่องฟุตบอลประเพณี จุฬา ธรรมศาสตร์
ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร…
และฉันก็ไม่รู้ คสช.เพ่งเล็งจริงไหม หรือจริงจังขนาดไหน
นึกถึงสมัยฉันเรียนถาปัด จุฬาฯ ก็ได้ร่วมงานบอลประเพณีนี่ตั้งแต่ปีหนึ่ง…
ได้เข้าไปทำโค้ดแปรอักษรเป็นรูปพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง…
จำได้ลางๆ ว่า รุ่นพี่เป็นคนร่างภาพ รุ่นน้อง ๆ อย่างฉันต้องเอาดินสอสีลงในกระดาษที่เป็นช่องโมเสค ว่าช่องไหนจะสีอะไร โค้ดอะไร…
สมัยนั้นใช้มือเปล่า สมัยนี้คงใช้คอมพ์ทำ
ได้ขึ้นแสตนด์เชียร์ครั้งหนึ่งที่สนามศุภชลาศัย หยิบป้ายแปรอักษร อะไรนี่แหละ…หลังจากปีหนึ่งปีเดียว ก็ไม่ไปขึ้นอีกเลย…ตื่นไม่ทัน เป็นเด็กถาปัดตอนนั้น มักจะตื่นไม่ทันอะไรอะไรหลายอย่าง..
บอลจุฬาธรรมศาสตร์ เป็นเรื่องน่ารักน่าเอ็นดู เกิดขึ้นมาตั้งเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว เข้าใจว่า เกิดตั้งแต่ตอนที่เมืองไทยยังมีมหาวิทยาลัยอยู่สองแห่งนี้เอง…มีทั้งอารมณ์ต้องแข่งขันกัน และอารมณ์เป็นเพื่อนกัน เพราะไม่รู้จะไปเป็นเพื่อนกับมหาวิทยาลัยไหนได้…เป็นเพื่อนรักเพื่อนแข่ง…มีช่วยกัน มีแหย่กัน
ผ่านมาเจ็ดสิบกว่าปี มีมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นมากตามลำดับ จนถึงทุกวันนี้คงเป็นร้อยมหาวิทยาลัยแล้ว….คำว่า มหาวิทยาลัย ไม่ได้ดูโก้หรูสูงส่งขลังขนาดนั้นอีกแล้ว
แต่งานบอลประเพณีเขาก็ยังมีอยู่ เวลาแข่งบอลกันก็เอาจริงเอาจัง ไม่ใช่เล่นเหยาะแหยะ แสตนด์เชียร์ เชียร์ลีดเดอร์ ผู้อัญเชิญพระเกี้ยว ธรรมจักร ฯลฯ รวมทั้งพาเหรดที่ ต้องมีหยิกแกมหยอกการเมือง รัฐบาลในขณะนั้น มาตลอด ไม่มีขาด…
ถ้าหากขาดหายไป คงไม่ครบรสชาติของบอลประเพณี..
ให้เด็กๆ เขาได้สนุก ได้แสดงความคิดของเขากันเถิดครับคุณพี่คุณลุง เขาได้ทำตามประเพณีของเขา ได้หยิกแกมหยอก ได้แสดงความเห็นแบบครีเอทีฟ…ที่สำคัญคือ เขาได้แสดงความเห็นแบบของเขาได้ถูกกาละเทศะ
ฉันก็ดูพวกขบวนพาเหรดล้อการเมืองมาสิบๆปีแล้ว ก็ขำมั่ง ฝืดมั่ง เฉยๆ มั่ง อย่าไปเพ่งเล็งอะไรเค้าเลย
ไม่รู้ว่าไอเดียเพ่งเล็งนี่มาจากใครนะ…แต่แค่มีไอเดียเพ่งเล็งกับกิจกรรมนักศึกษา ในสิ่งที่เขาทำมาเป็นประเพณี ทำในส่วนที่มีรั้วรอบขอบชิด…
แล้วก็เป็นแค่การเล่น การหยอก คุณลุงคุณน้า ขำขันวันเดียวจบ…
จะไปเพ่งเล็งทำไม…เรื่องเล็กมากเลยจ้ะ
ไปเพ่งเล็งมาก ๆ ผู้ใหญ่เองน่ะแหละ จะไม่หล่อ
ปล่อยเด็กๆ ให้เขาเล่นในสนามเขาไปเถิด…ไม่เคยเห็นขบวนล้อการเมืองในบอลประเพณี มันโค่นล้มรัฐบาลได้สักที
เอ็นดูลูกหลานเถิด บางทีอาจได้ไอเดียดี ๆ จากลูกหลาน มีแสบมีคันบ้าง
เด็ก ๆ เขาขอล้อ ขอแซวลุงป้าน้าอา ปีละครั้ง ซึ่งทำมาทุกปีเป็นธรรมดาแล้ว อยู่ในสนามศุภฯ นั่น ไม่มีอะไรต้องเพ่งเล็งดอก แค่ดูว่า มันขำดีไหม เท่านั้นก็พอแล้ว
แต่สำหรับเด็ก ๆ หรือใครก็ตามที่แสดงความเห็นอยู่กระจัดกระจาย ไม่มีอารมณ์ขัน อารมณ์อะไรไม่รู้…..จะเอาอะไรไม่รู้…เออ อันนั้น ค่อยลองไปสอดส่องดู ว่ามีอะไรแอบแฝงไหม
แต่ฉันเชื่อนะ ว่า พาเหรดการเมืองบอลประเพณีจุฬาธรรมศาสตร์ มันมีแต่ความอยากล้อ อยากแสดงออก แต่ไม่น่าจะมีอะไรแอบแฝงไปกว่านัั้น
อย่าเพ่งเล็งเขาเลยนะ ท่านอัครมหาเสนาบดี เสนาบดี อธิการบดี…
เก็บเรื่องเล็ก ให้เป็นเรื่องเล็กเถิด…ท่านเอามาขยาย มันก็ใหญ่ขึ้นไปอีก
ที่ฉันเคืองเล็กน้อยนะ แม่ประไพ….
บอลครั้งนี้…ทีมธรรมศาสตร์ เล่นยกทีมชาติมาครึ่งทีม รวมทั้งเจ้าเมสซี่เจด้วย…
ทีมจุฬาจะไหวไหมอ้ะ…