พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อมูลกรมชลประทาน พบว่า ปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนทั่วประเทศปี 58 และ 59 เหลือเพียง 4,247 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นผลมาจากการระบายน้ำออกจำนวนมากตั้งแต่ปี 54 และ 55 เพื่อป้องกันน้ำท่วม และจ่ายน้ำเข้าพื้นที่นาตามโครงการรับจำนำข้าว รวมทั้งเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงทำให้น้ำในเขื่อนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลนี้พยายามแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนด้วยแผนยุทธศาสตร์บริหารจัดการน้ำระยะยาว 12 ปี ภายใต้หลักประชารัฐ เปลี่ยนมุมมองจากการพิจารณาเฉพาะภาพกว้างในระดับลุ่มน้ำ เป็นการเจาะพื้นที่แคบลงในระดับอำเภอและกลุ่มจังหวัด เพื่อให้เห็นปัญหาที่แท้จริง
ทั้งนี้ พล.ต.สรรเสริญ ยังระบุว่า นายกรัฐมนตรีมองปัญหาอย่างรอบด้านและต้องการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ไม่สนใจคะแนนเสียง จึงขอให้ทุกฝ่ายทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจังเพื่ออนาคตของประเทศ
ทั้งนี้ พล.ต.สรรเสริญ ยังระบุว่า นายกรัฐมนตรีมองปัญหาอย่างรอบด้านและต้องการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ไม่สนใจคะแนนเสียง จึงขอให้ทุกฝ่ายทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจังเพื่ออนาคตของประเทศ