เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 30 มกราคม 2559 พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย บุกเข้าตรวจสอบร้านแบล็คเพิร์ล ออนเดอะซี พัทยาผับ สถานบันเทิงติดทะเลชื่อดัง ย่านท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายพัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่าผับแห่งนี้จะจัดงานปาร์ตี้ชุดนักเรียน อีกทั้งปล่อยปละให้เด็กอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดเข้าใช้บริการจำนวนมาก
จากการปิดล้อมจู่โจมตรวจค้น สถานบันเทิงแห่งนี้ พบภายในงานปาร์ตี้มีนักเที่ยววัยรุ่นชายหญิงกว่า 200 คน ซึ่งสวมใส่ชุดนักเรียน กำลังดื่มสุราเต้นรำตามจังหวะเสียงเพลงของดีเจอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงขอความร่วมมือให้ทางร้านปิดเพลงพร้อมกับเปิดไฟร้านทันที และประกาศขอให้นักเที่ยวอยู่ในอาการสงบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแยกแถวชายหญิงเป็น 2 ฝั่ง ก่อนจะทำการตรวจบัตรประจำตัวประชาชน และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย
ทั้งนี้ ปรากฏว่าพบนักเที่ยววัยรุ่นอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด 7 คน และผู้ที่มีสารเสพติดในร่างกายมากถึง 32 คน นอกจากนี้ ตรวจพบยาเค บรรจุอยู่ในซองพลาสติกสีขาวตกอยู่พื้นกลางผับดังกล่าวจำนวน 2 ถุง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวนายอาคม เวียงคำ อายุ 48 ปี รับเป็นผู้จัดการและดูแลร้าน ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา เปิดสถานบันเทิงผิดกฎหมาย ปล่อยปละละเลยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ
พ.ต.อ.สุขทัศน์ เผยว่า สถานบันเทิงแห่งนี้ได้เปิดให้บริการมาไม่ถึงเดือน โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ผับดังกล่าวได้ถูกตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าตรวจค้นจับกุมจนร้านต้องปิดตายนานถึง 5 ปี เพราะเจอเยาวชนเข้าไปมั่วสุ่มจำนวนมาก จนกระทั่งผับดังกล่าวได้ย้ายที่มาเปิด ย่านแหลมบาลีฮายดังกล่าว ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีอีกครั้ง อย่างไรก็ตามจะได้ยื่นเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีสั่งปิดตาย 5 ปี ต่อไป
ก่อนหน้านี้เวลา 04.00 น. ร.ต.อ.กฤชฐา ประทุมแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุแทงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้า WE ARE NO.1 AGO GO ย่านพัทยาใต้ หมู่ 12 หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านมีเลือดนองเต็มพื้น พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือน.ส.พรชิตา เสาสา อายุ 38 ปี พนักงานร้านที่เกิดเหตุ ถูกแทงเข้าที่ต้นคอด้านซ้าย และแขนด้านขวา นอนจมกองเลือดอยู่หน้าประตูทางเข้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายตัวส่งโรงพยาบาลบางละมุง ส่วนผู้ก่อเหตุยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่พร้อมกับของกลางที่ใช้ก่อเหตุเป็นที่เปิดขวดไวท์
สอบสวนผู้ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังคือน.ส.นิคม จุมมณี สัญชาติลาวอายุ 29 ปี พนักงานร้านเกิดเหตุเช่นกัน ทราบว่าได้มีปากเสียงกับผู้บาดเจ็บบ่อยครั้ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องแย่งแขกที่เข้ามาใช้บริการกัน จนกระทั้งมาวันนี้ผู้บาดเจ็บได้นัดตนออกมาเคลียปัญหาที่หน้าร้าน จนเกิดมีปากเสียงอย่างรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือกับตนเอง ด้วยความกลัวตนจึงคว้าที่เปิดขวดไวท์ที่ติดตัวมาด้วยแทงใส่น.ส.พรชิตา โดยไม่ได้หวังจะเอาชีวิตแต่เพียงเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามทางร.ต.อ.กฤชฐา ประทุมแก้ว พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ก่อเหตุ และจะสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าร้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง จึงควบคุมตัวน.ส.นิคมิเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้บาดเจ็บยังอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด
จากการปิดล้อมจู่โจมตรวจค้น สถานบันเทิงแห่งนี้ พบภายในงานปาร์ตี้มีนักเที่ยววัยรุ่นชายหญิงกว่า 200 คน ซึ่งสวมใส่ชุดนักเรียน กำลังดื่มสุราเต้นรำตามจังหวะเสียงเพลงของดีเจอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงขอความร่วมมือให้ทางร้านปิดเพลงพร้อมกับเปิดไฟร้านทันที และประกาศขอให้นักเที่ยวอยู่ในอาการสงบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแยกแถวชายหญิงเป็น 2 ฝั่ง ก่อนจะทำการตรวจบัตรประจำตัวประชาชน และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย
ทั้งนี้ ปรากฏว่าพบนักเที่ยววัยรุ่นอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด 7 คน และผู้ที่มีสารเสพติดในร่างกายมากถึง 32 คน นอกจากนี้ ตรวจพบยาเค บรรจุอยู่ในซองพลาสติกสีขาวตกอยู่พื้นกลางผับดังกล่าวจำนวน 2 ถุง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวนายอาคม เวียงคำ อายุ 48 ปี รับเป็นผู้จัดการและดูแลร้าน ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา เปิดสถานบันเทิงผิดกฎหมาย ปล่อยปละละเลยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ
พ.ต.อ.สุขทัศน์ เผยว่า สถานบันเทิงแห่งนี้ได้เปิดให้บริการมาไม่ถึงเดือน โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ผับดังกล่าวได้ถูกตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าตรวจค้นจับกุมจนร้านต้องปิดตายนานถึง 5 ปี เพราะเจอเยาวชนเข้าไปมั่วสุ่มจำนวนมาก จนกระทั่งผับดังกล่าวได้ย้ายที่มาเปิด ย่านแหลมบาลีฮายดังกล่าว ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีอีกครั้ง อย่างไรก็ตามจะได้ยื่นเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีสั่งปิดตาย 5 ปี ต่อไป
ก่อนหน้านี้เวลา 04.00 น. ร.ต.อ.กฤชฐา ประทุมแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุแทงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้า WE ARE NO.1 AGO GO ย่านพัทยาใต้ หมู่ 12 หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านมีเลือดนองเต็มพื้น พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือน.ส.พรชิตา เสาสา อายุ 38 ปี พนักงานร้านที่เกิดเหตุ ถูกแทงเข้าที่ต้นคอด้านซ้าย และแขนด้านขวา นอนจมกองเลือดอยู่หน้าประตูทางเข้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายตัวส่งโรงพยาบาลบางละมุง ส่วนผู้ก่อเหตุยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่พร้อมกับของกลางที่ใช้ก่อเหตุเป็นที่เปิดขวดไวท์
สอบสวนผู้ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังคือน.ส.นิคม จุมมณี สัญชาติลาวอายุ 29 ปี พนักงานร้านเกิดเหตุเช่นกัน ทราบว่าได้มีปากเสียงกับผู้บาดเจ็บบ่อยครั้ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องแย่งแขกที่เข้ามาใช้บริการกัน จนกระทั้งมาวันนี้ผู้บาดเจ็บได้นัดตนออกมาเคลียปัญหาที่หน้าร้าน จนเกิดมีปากเสียงอย่างรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือกับตนเอง ด้วยความกลัวตนจึงคว้าที่เปิดขวดไวท์ที่ติดตัวมาด้วยแทงใส่น.ส.พรชิตา โดยไม่ได้หวังจะเอาชีวิตแต่เพียงเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามทางร.ต.อ.กฤชฐา ประทุมแก้ว พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ก่อเหตุ และจะสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าร้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง จึงควบคุมตัวน.ส.นิคมิเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้บาดเจ็บยังอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด