xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เผยคนไข้เมอร์สอาการทรงตัว รอสังเกตอาการ 9 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.พ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า คนไข้เมอร์สอาการล่าสุดวันนี้ยังทรงตัว มีไข้ต่ำๆ ไอเล็กน้อย ให้ออกซิเจน เช่นเดิม รับประทานอาหารได้ ลุกเดินเข้าห้องน้ำได้ ยังพักรักษาตัวในห้องแยกโรค เฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ทีมสอบสวนโรคได้สอบสวนพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และนำมาสังเกตอาการเพิ่มเติมที่สถาบันบำราศนราดูร ได้แก่ คนขับแท็กซี่ และผู้เดินทางชาวโอมาน โดยการสอบสวนและติดตามผู้สัมผัสโรคเสี่ยงสูง มี 40 คน ประกอบด้วย ผู้โดยสารบนเครื่องบินเที่ยวเดียวกับผู้ติดเชื้อ 22 คน (เป็นคนไทย 4 คน ชาวต่างชาติ 18 คน) คนขับแท็กซี่ 2 คน พนักงานโรงแรม 4 คน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล 11 คน ญาติ 1 คน ขณะนี้สามารถติดตามตัวได้แล้ว 32 คน ที่เหลืออยู่ระหว่างการติดตาม โดยกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสถานทูตและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นๆ คาดว่าจะนำตัวผู้สัมผัสโรคเสี่ยงสูงที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยทุกคน รับไว้สังเกตอาการในสถานที่ที่เตรียมไว้รองรับ ขณะนี้อยู่ในสถาบันบำราศนราดูร 9 คน ซึ่งเป็นญาติ 1 คน คนขับแท็กซี่ 2 คน ผู้ร่วมเดินทางคนไทย 1 คน และชาวโอมาน 5 คน ซึ่งทุกคนยังสบายดี อธิบดีกรมควบคุมโรค จะนำเสนอเรื่องนี้เข้าสู่องค์การอนามัยโรค ให้รับทราบ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน เนื่องจากกรณีนี้เป็นเรื่องที่หลายประเทศจะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา โดยสถานการณ์วันนี้มีรายงานขององค์การอนามัยโลก พบผู้ป่วยจากทั่วโลกทั้งสิ้น 1,626 ราย เสียชีวิต 586 ศพ ใน 26 ประเทศ
ทั้งนี้อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ให้คำแนะนำกับประชาชนให้ป้องกันตัวเองจากโรคเมอร์ส หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจหรือผู้ที่มีอาการไอหรือจาม ปฏิบัติตามสุขอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ ถ้ามีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสคลุกคลีกับบุคคลอื่น เมื่อไอหรือจามควรใช้กระดาษชำระปิดปากและจมูกทุกครั้ง และทิ้งกระดาษชำระที่ใช้แล้วลงในถังขยะที่ปิดมิดชิดและล้างมือให้สะอาด สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขในพื้นที่ พร้อมแจ้งความเสี่ยงอาจสัมผัสโรค เช่น เดินมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรค หรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่สงสัยว่าจะเป็นโรคเมอร์ส
ทั้งนี้ หากประชาชนมีการเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของโรคเมอร์ส กลับมาภายใน 14 วัน หากมีไข้ ไอ ขอให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมกับแจ้งประวัติการเดินทาง และหากมีข้อสงสัย โทรปรึกษา สายด่วนกรมควบคุมโรคหมายเลข 1422
กำลังโหลดความคิดเห็น