สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ร้านอาหารในประเทศจีนถึง 35 แห่ง กำลังถูกทางการจีนตรวจสอบว่าได้แอบใส่ผงฝิ่นลงไปในอาหาร เพื่อให้ลูกค้าติดใจ จะได้กลับมารับประทานอาหารที่ร้านตนเองอีกหรือไม่ โดยจากการเปิดเผยของสำนักงานอาหารและยาของจีน ระบุว่า เฉพาะสัปดาห์นี้มีร้านอาหารทั้งสิ้น 35 แห่ง ที่อยู่ในระหว่างการสอบสวน และอีก 5 แห่งถูกดำเนินคดีแล้ว หลังจากมีการตรวจพบใช้สารเสพติดอย่าง ฝิ่น มอร์ฟีน และ โคเดอีน ที่มีฤทธิ์ทำให้เสพติด ในการปรุงอาหารเพื่อจำหน่าย นอกจากนี้ สำนักงานอาหารและยาของจีนยังขอให้เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นช่วยกันเพิ่มการเฝ้าระวังและหมั่นตรวจตราผู้ประกอบการร้านอาหารที่อาจกระทำการดังกล่าว ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจีนมาตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมาด้วย
ทั้งนี้ การใช้ผงฝิ่นมาปรุงอาหารในประเทศจีนไม่ได้เป็นเรื่องแปลก แม้จะยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าสารดังกล่าวทำให้ผู้คนติดใจอาหารของร้านนั้นๆจริงหรือไม่ แต่กรณีที่จุดความสนใจให้ทางการจีนเอาจริงเอาจังในการปราบปรามการใช้สารที่ทำให้เสพติดเหล่านี้มาปรุงอาหาร เป็นกรณีที่เกิดขึ้นในปี 2557 เมื่อพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งยอมรับว่าได้ใส่ผงฝิ่นในน้ำซุปเพื่อหวังให้ลูกค้ากลับมากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านตนเอง ซึ่งการตรวจสอบที่นำไปสู่การจับกุมพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวรายนี้มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หยุดรถยนต์คันหนึ่งที่ชายอายุ 26 ปีขับมาและตรวจพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย หลังจากที่เขาไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนี้
ทั้งนี้ การใช้ผงฝิ่นมาปรุงอาหารในประเทศจีนไม่ได้เป็นเรื่องแปลก แม้จะยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าสารดังกล่าวทำให้ผู้คนติดใจอาหารของร้านนั้นๆจริงหรือไม่ แต่กรณีที่จุดความสนใจให้ทางการจีนเอาจริงเอาจังในการปราบปรามการใช้สารที่ทำให้เสพติดเหล่านี้มาปรุงอาหาร เป็นกรณีที่เกิดขึ้นในปี 2557 เมื่อพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งยอมรับว่าได้ใส่ผงฝิ่นในน้ำซุปเพื่อหวังให้ลูกค้ากลับมากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านตนเอง ซึ่งการตรวจสอบที่นำไปสู่การจับกุมพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวรายนี้มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หยุดรถยนต์คันหนึ่งที่ชายอายุ 26 ปีขับมาและตรวจพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย หลังจากที่เขาไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนี้