ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันฟื้นตัว และถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งส่งสัญญาผ่อนคลายนโยบายรอบใหม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,093.51 จุด เพิ่มขึ้น 210.83 จุด หรือ +1.33% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,591.18 จุด เพิ่มขึ้น 119.12 จุด หรือ +2.66% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 1,906.90 จุด เพิ่มขึ้น 37.91 จุด หรือ +2.03%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพรุ่งเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังพุ่งขึ้นรับถ้อยแถลงของนายดรากี ประธาน ECB โดยนายดรากีเผย ECB จะทำการทบทวนนโยบายการเงินในการประชุมครั้งหน้าในเดือนมี.ค. ซึ่งถ้อยแถลงของนายดรากีเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB อาจผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนมี.ค.
นายดรากีกล่าวว่า ภาวะปั่นป่วนในตลาดการเงิน และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และตลาดเกิดใหม่ จะเป็นปัจจัยทำให้ ECB มีการปรับนโยบายในการประชุมครั้งต่อไป นอกจากนี้ นายดรากียังกล่าวว่า ECB จะพิจารณาขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรออกไปอีก หากมีความจำเป็น
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นมากที่สุด โดยหุ้นชลัมเบอร์เจอร์ และ หุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี ต่างพุ่งขึ้นมากกว่า 6.1% หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 5.32% หุ้นธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกนพุ่งขึ้นกว่า 3.1%
สำหรับตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.7% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.4% และดัชนี NASDAQ พุ่งขึ้น 2.3%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,093.51 จุด เพิ่มขึ้น 210.83 จุด หรือ +1.33% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,591.18 จุด เพิ่มขึ้น 119.12 จุด หรือ +2.66% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 1,906.90 จุด เพิ่มขึ้น 37.91 จุด หรือ +2.03%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพรุ่งเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังพุ่งขึ้นรับถ้อยแถลงของนายดรากี ประธาน ECB โดยนายดรากีเผย ECB จะทำการทบทวนนโยบายการเงินในการประชุมครั้งหน้าในเดือนมี.ค. ซึ่งถ้อยแถลงของนายดรากีเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB อาจผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนมี.ค.
นายดรากีกล่าวว่า ภาวะปั่นป่วนในตลาดการเงิน และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และตลาดเกิดใหม่ จะเป็นปัจจัยทำให้ ECB มีการปรับนโยบายในการประชุมครั้งต่อไป นอกจากนี้ นายดรากียังกล่าวว่า ECB จะพิจารณาขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรออกไปอีก หากมีความจำเป็น
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นมากที่สุด โดยหุ้นชลัมเบอร์เจอร์ และ หุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี ต่างพุ่งขึ้นมากกว่า 6.1% หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 5.32% หุ้นธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกนพุ่งขึ้นกว่า 3.1%
สำหรับตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.7% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.4% และดัชนี NASDAQ พุ่งขึ้น 2.3%