พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งรองประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แล้ว เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการที่เหลืออยู่สามารถทำงานต่อไปได้ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ออกคำสั่งให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของ สสส. จำนวน 7 ราย รวมถึง นพ.วิชัย โชควิวัฒน รองประธานกรรมการ สสส. คนที่ 2 พ้นหน้าที่ จนทำให้องค์ประกอบไม่ครบ และไม่สามารถประชุมได้
โดย พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยถึงเรื่องนี้เมื่อวันที่ 18 มกราคมว่า ได้ลงนามเพื่อแก้ไขปัญหาการทำงานของ สสส. เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้กรรมการที่เหลือสามารถทำงานต่อไปได้ตามปกติ เพราะมีปัญหารองประธานไม่ครบขาดไป 1 คน ทำให้องค์ประกอบในที่ประชุมไม่ครบ แต่เมื่อมีการตั้งรองประธานขึ้นมาแล้ว ก็จะสามารถเดินหน้าทำงานต่อไปได้ทันที
ทั้งนี้ในช่วงเย็นวันเดียวกัน เว็บไซด์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 2/2559 เรื่องการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นการชั่วคราว โดยมีสาระสำคัญดังนี้ 1.ให้ดําเนินการสรรหาและแต่งตั้งผู้ดํารงตําแหน่งในคณะกรรมการกองทุน สสส. ที่ว่างลง ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 2.ในระหว่างการดําเนินการตามข้อ 1 ให้ถือว่าคณะกรรมการ สสส. ประกอบด้วยกรรมการที่เหลืออยู่และปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ โดยให้ นายชํานาญ พิเชษฐพันธ์ เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 2 เป็นการชั่วคราว 3.ให้คณะกรรมการตามข้อ 2 ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะกรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า อดีตบอร์ดสสส.ทั้ง 7 คน ถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งด้วยปัญหาตำแหน่งทับซ้อนกับการเป็นกรรมการในมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับการรับทุนของ สสส. จึงถูกกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งหากทั้ง 7 คนจะกลับมา ก็ต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก ส่วนการสรรหากรรมการใหม่จะเริ่มเมื่อไรนั้น ตนไม่ทราบ
ขณะที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เปิดเผยว่า บอร์ดสสส.ที่ถูกปลดทั้ง 7 คน สามารถชี้แจงและให้ข้อมูลกับ ศอตช. ได้ แต่เวลานี้มีเพียง นายวิเชียร พงศธร เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ประสานมา จึงได้สั่งการให้ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขา ศอตช. ไปประสานบอร์ดที่เหลืออีก 6 คนว่า ต้องการเข้าชี้แจงด้วยหรือไม่ เพื่อจะได้เรียกประชุม ศอตช. ซึ่งมีหัวหน้าหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาเข้าร่วมรับฟังในคราวเดียว
โดย พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยถึงเรื่องนี้เมื่อวันที่ 18 มกราคมว่า ได้ลงนามเพื่อแก้ไขปัญหาการทำงานของ สสส. เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้กรรมการที่เหลือสามารถทำงานต่อไปได้ตามปกติ เพราะมีปัญหารองประธานไม่ครบขาดไป 1 คน ทำให้องค์ประกอบในที่ประชุมไม่ครบ แต่เมื่อมีการตั้งรองประธานขึ้นมาแล้ว ก็จะสามารถเดินหน้าทำงานต่อไปได้ทันที
ทั้งนี้ในช่วงเย็นวันเดียวกัน เว็บไซด์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 2/2559 เรื่องการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นการชั่วคราว โดยมีสาระสำคัญดังนี้ 1.ให้ดําเนินการสรรหาและแต่งตั้งผู้ดํารงตําแหน่งในคณะกรรมการกองทุน สสส. ที่ว่างลง ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 2.ในระหว่างการดําเนินการตามข้อ 1 ให้ถือว่าคณะกรรมการ สสส. ประกอบด้วยกรรมการที่เหลืออยู่และปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ โดยให้ นายชํานาญ พิเชษฐพันธ์ เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 2 เป็นการชั่วคราว 3.ให้คณะกรรมการตามข้อ 2 ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะกรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า อดีตบอร์ดสสส.ทั้ง 7 คน ถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งด้วยปัญหาตำแหน่งทับซ้อนกับการเป็นกรรมการในมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับการรับทุนของ สสส. จึงถูกกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งหากทั้ง 7 คนจะกลับมา ก็ต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีก ส่วนการสรรหากรรมการใหม่จะเริ่มเมื่อไรนั้น ตนไม่ทราบ
ขณะที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เปิดเผยว่า บอร์ดสสส.ที่ถูกปลดทั้ง 7 คน สามารถชี้แจงและให้ข้อมูลกับ ศอตช. ได้ แต่เวลานี้มีเพียง นายวิเชียร พงศธร เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ประสานมา จึงได้สั่งการให้ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขา ศอตช. ไปประสานบอร์ดที่เหลืออีก 6 คนว่า ต้องการเข้าชี้แจงด้วยหรือไม่ เพื่อจะได้เรียกประชุม ศอตช. ซึ่งมีหัวหน้าหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาเข้าร่วมรับฟังในคราวเดียว
