พ.ต.ท.บัณฑิต หัตถพิถีพันธุ์ สวป.สภ.เขาหลัก นาย จำรัส หลีเจี้ย กำนันตำบลคึกคัก ได้รับแจ้งมีผู้หญิงและเด็กชาวโรฮีนจาจำนวน 11 คน เด็กไม่ถึง 20 ปี จำนวน 8 คน ผู้ใหญ่ 3 คน ที่โดนจับเมื่อปลายปี 2557 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองพังงาส่งตัวมาให้บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงาช่วยดูแลเป็นการชั่วคราว จึงเร่งลงพื้นที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ม.5 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อทำการตรวจสอบหาร่องรอยการหลบหนีก่อนที่จะร่วมกันระดมกำลังเจ้าหน้าที่ค้นหาในจุดต่างๆ
พ.ต.ท.บัณฑิต กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ขณะนี้กำลังเร่งดูภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าประมาณ 02.02 น.ของวันที่ 8 ม.ค.59 ผู้หญิงและเด็กชาวโรงฮีนจาได้รวมตัวกัน และเดินผ่านช่องหน้าต่างเหล็กดัดที่สามารถเปิดปิดได้ซึ่งมีไว้สำหรับเข้าออกด้านนอกของชั้นสองในการซ่อมบำรุงต่างๆ ก่อนจะเดินเรียบทางระเบียงและไปลงด้านมุมตึก และหายไปในจุดที่มุมกล้องเสีย จากนั้นจึงเดินทางไปเทศบาลตำบลคึกคักเพื่อทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดด้านนอก เพื่อหารถต้องสงสัยที่มารับชาวโรฮีนจา พร้อมตั้งข้อสงสัยว่ากุญแจที่ใช้ล็อคเหล็กดัดดังกล่าวหายไปไหน
ด้านนายจำรัส หลีเจี้ย เปิดเผยว่า ขณะนี้อำเภอตะกั่วป่าได้ระดมชุดเฉพาะกิจ รวมถึงเครือข่ายในตำบลคึกคัก ลงพื้นที่ต้องสงสัยปูพรมค้นหาชาวโรฮีนจาตามเส้นทางเดินและป่าละเมาะใกล้เคียง รอบๆ บ้านพักเด็กและครอบครัว กล่าวต่อ ซึ่งก่อนหน้ากลุ่มชาวโรฮีนจาชุดนี้ได้มีการหลบหนี้เช่นนี้มาแล้ว 1 ครั้ง
พ.ต.ท.บัณฑิต กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ขณะนี้กำลังเร่งดูภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าประมาณ 02.02 น.ของวันที่ 8 ม.ค.59 ผู้หญิงและเด็กชาวโรงฮีนจาได้รวมตัวกัน และเดินผ่านช่องหน้าต่างเหล็กดัดที่สามารถเปิดปิดได้ซึ่งมีไว้สำหรับเข้าออกด้านนอกของชั้นสองในการซ่อมบำรุงต่างๆ ก่อนจะเดินเรียบทางระเบียงและไปลงด้านมุมตึก และหายไปในจุดที่มุมกล้องเสีย จากนั้นจึงเดินทางไปเทศบาลตำบลคึกคักเพื่อทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดด้านนอก เพื่อหารถต้องสงสัยที่มารับชาวโรฮีนจา พร้อมตั้งข้อสงสัยว่ากุญแจที่ใช้ล็อคเหล็กดัดดังกล่าวหายไปไหน
ด้านนายจำรัส หลีเจี้ย เปิดเผยว่า ขณะนี้อำเภอตะกั่วป่าได้ระดมชุดเฉพาะกิจ รวมถึงเครือข่ายในตำบลคึกคัก ลงพื้นที่ต้องสงสัยปูพรมค้นหาชาวโรฮีนจาตามเส้นทางเดินและป่าละเมาะใกล้เคียง รอบๆ บ้านพักเด็กและครอบครัว กล่าวต่อ ซึ่งก่อนหน้ากลุ่มชาวโรฮีนจาชุดนี้ได้มีการหลบหนี้เช่นนี้มาแล้ว 1 ครั้ง
