เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายณรงค์ อ่อนสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พ.อ.พงศ์มิตรปิ่นปันคง เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 7 จ.ลำพูน นายธนพงษ์ นิลยกานนท์ นายอำเภอเมืองลำพูน พ.ต.อ.ผล ปวนเปี้ย ผู้กำกับการ สภ.เมืองลำพูน และนางวณิชชา ฉ่ำเฉลิม ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ลำพูน นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน กว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนจำตามนโยบายของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยมีการตรวจค้นอย่างละเอียดตามตู้เก็บสิ่งของ บริเวณอ่างล้างหน้า และท่อระบายน้ำ เรือนนอนผู้ต้องขังชาย และผู้ต้องขังหญิง
ผลการตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบสิ่งต้องห้ามนำเข้าเรือนจำนวนมาก โดยเฉพาะอุปกรณ์การพนัน ไฟแช็ค เหล็กแหลม ตะปู ลวดยาว มีดดัดแปลงจากวัสดุเหลือใช้ ที่อาจใช้เป็นอาวุธได้เป็นจำนวนมาก แต่การตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่พบสิ่งเสพติด และโทรศัพท์มือถือ
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า การตรวจค้นเรือนจำครั้งนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้รับมอบนโยบายจาก คสช. เรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดและปราบปรามปัญหายาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายในเรือนจำ รวมถึงการจัดระเบียบภายในเรือนจำ
สำหรับมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้เน้นให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเสพติดอย่างจริงจัง ทั้งด้านการปราบปราม ผู้ค้า และการบำบัดผู้เสพ ซึ่งในส่วนของเรือนจำได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในเรื่องของการป้องกันการลักลอบนำสิ่งเสพติดเข้ามาในเรือนจำ เพื่อไม่ให้เรือนจำเป็นแหล่งกระจายยาเสพติด จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พบปะกับผู้ต้องขังชาย และหญิง เพื่อให้โอวาทในการปฏิบัติตนกลับไปเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติเมื่อพ้นโทษ
ทั้งนี้ เรือนจำจังหวัดลำพูนมีผู้ต้องขัง จำนวน 2,289 คน แบ่งเป็น ชาย 2,048 คน และ หญิง 241 คน
ผลการตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบสิ่งต้องห้ามนำเข้าเรือนจำนวนมาก โดยเฉพาะอุปกรณ์การพนัน ไฟแช็ค เหล็กแหลม ตะปู ลวดยาว มีดดัดแปลงจากวัสดุเหลือใช้ ที่อาจใช้เป็นอาวุธได้เป็นจำนวนมาก แต่การตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่พบสิ่งเสพติด และโทรศัพท์มือถือ
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า การตรวจค้นเรือนจำครั้งนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้รับมอบนโยบายจาก คสช. เรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดและปราบปรามปัญหายาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายในเรือนจำ รวมถึงการจัดระเบียบภายในเรือนจำ
สำหรับมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้เน้นให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเสพติดอย่างจริงจัง ทั้งด้านการปราบปราม ผู้ค้า และการบำบัดผู้เสพ ซึ่งในส่วนของเรือนจำได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในเรื่องของการป้องกันการลักลอบนำสิ่งเสพติดเข้ามาในเรือนจำ เพื่อไม่ให้เรือนจำเป็นแหล่งกระจายยาเสพติด จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พบปะกับผู้ต้องขังชาย และหญิง เพื่อให้โอวาทในการปฏิบัติตนกลับไปเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติเมื่อพ้นโทษ
ทั้งนี้ เรือนจำจังหวัดลำพูนมีผู้ต้องขัง จำนวน 2,289 คน แบ่งเป็น ชาย 2,048 คน และ หญิง 241 คน