นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลออกมา รวมถึงมาตรการให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการหักค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2558 ไม่เกิน 15,000 บาท จะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 3 ซึ่งสูงกว่าที่คลังประมาณไว้ก่อนหน้านี้ ที่ร้อยละ 2.8 โดยในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะแถลงปรับคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2558 และแนวโน้มในปี 2559 ใหม่
สำหรับมาตรการให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการหักค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ออกมากระตุ้นการซื้อสินค้าในช่วง 7 วันสุดท้ายของปีนั้น กระทรวงการคลังคาดว่าจะมีเงินสะพัดจากการจับจ่ายของประชาชน 140,000-150,000 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจขยายตัวได้ร้อยละ 0.2
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี 2558 เพิ่มเป็นร้อยละ 2.8 จากเดิม ร้อยละ 2.7 สาเหตุหลักมาจากการใช้จ่ายภาครัฐ การบริโภคภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่มขึ้น ยังไม่รวมมาตรการนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการหักค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่กระทรวงการคลังประกาศมาร่วมคำนวณด้วย ส่วนในปี 2559 คาดว่าเศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 3.5 ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ที่ร้อยละ 3.7 เนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และภัยแล้ง
สำหรับมาตรการให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการหักค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ออกมากระตุ้นการซื้อสินค้าในช่วง 7 วันสุดท้ายของปีนั้น กระทรวงการคลังคาดว่าจะมีเงินสะพัดจากการจับจ่ายของประชาชน 140,000-150,000 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจขยายตัวได้ร้อยละ 0.2
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี 2558 เพิ่มเป็นร้อยละ 2.8 จากเดิม ร้อยละ 2.7 สาเหตุหลักมาจากการใช้จ่ายภาครัฐ การบริโภคภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่มขึ้น ยังไม่รวมมาตรการนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการหักค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่กระทรวงการคลังประกาศมาร่วมคำนวณด้วย ส่วนในปี 2559 คาดว่าเศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 3.5 ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ที่ร้อยละ 3.7 เนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และภัยแล้ง