เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) กล่าวถึงมาตรการดูแลสถานการณ์ช่วงเทศกาลปีใหม่ว่าได้สั่งให้หน่วยทหารในพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งจุดตรวจยานพาหนะ โดยเน้นถนนสายรอง ภายในหมู่บ้านโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ถ้าตรวจพบว่า ผู้ขับขี่ดื่มสุรา ขอให้ยึดรถไว้ชั่วคราวทันที แล้วหลังเทศกาลปีใหม่ ค่อยมานำคืนเจ้าของรถภายหลัง เพื่อปีใหม่ปีหน้าจะได้ฉลองอีก ส่วนถนนสายหลัก รถสาธารณะทั้งหมด โดยผู้ขับรถสาธารณะทั้งหมด ต้องไม่มีการดื่มสุราอย่างเด็ดขาด หากตรวจพบจะยึดใบอนุญาตขับขี่ พร้อมทั้งดำเนินการเอาผิดกับเจ้าของรถด้วย
“การดูแลประชาชนของเจ้าหน้าที่ ถือว่าเป็นการให้ของขวัญปีใหม่กับประชาชน จัดงานรื่นเริง ก็ขอให้อยู่บ้าน ไม่ใช่ว่าดื่มสุราแล้ว อย่าออกไปไหน และอย่าใช้ยานพาหนะ จะไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน” พล.อ.ธีรชัย กล่าว
ด้านพลตำรวจโท ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กำชับให้ ตำรวจนครบาลทั้ง 88 สน. ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ช่วยกันลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของคนขับรถ โดยเฉพาะผู้ที่ขับรถโดยสารสาธารณะ หากตรวจพบก็จะดำเนินตามกฏหมายเด็ดขาดทันที พร้อมยึดใบอนุญาติขับขี่ด้วย
ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หากตรวจพบว่าเมาแล้วขับ ตำรวจสามารถยึดรถได้ทันที และให้มารับรถหลังเทศกาลปีใหม่ โดยมาตราการนี้ จะเริ่มบังใช้ตั้งแต่วันนี้ (24 ธ.ค. 58) เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 4 มกราคม 2559 เพื่อเป็นการซักซ้อมก่อนเข้าห้วง 7 วันอันตราย
พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญญา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า นายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เน้นย้ำให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเต็มที่ โดยใช้กำลังตำรวจกว่า 70,000 นาย ร่วมกับ ทหาร เน้นอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้กับประชาชนที่จะเดินทางในช่วงวันหยุดยาว โดยให้กองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมกับ ทุกสถานีตำรวจ และตำรวจทางหลวง วางแผนระบายรถให้เกิดความเรียบร้อย คาดประชาชนจะเดินทางจำนวนมากช่วงคืนวันที่ 30 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 31 ธันวาคม ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว
พร้อมกับเพิ่มความเข้มการตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดของผู้ขับขี่รถยนต์ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ รวมถึงการดำเนินคดีกับผู้ขับขี่จักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย หากตรวจพบจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โดยตำรวจจะดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน
ส่วนการรักษาปลอดภัยสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ 5 จุดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาทิ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ท่าเตียน เอเชียทีค จะมีการตรวจพื้นที่จุดสูงข่ม และสืบสวนหาข่าวอย่างใกล้ชิด และยืนยันการข่าวขณะนี้ ยังไม่พบการก่อเหตุความวุ่นวายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ไม่มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสหรือกลุ่มก่อการร้ายใดในประเทศไทย
“การดูแลประชาชนของเจ้าหน้าที่ ถือว่าเป็นการให้ของขวัญปีใหม่กับประชาชน จัดงานรื่นเริง ก็ขอให้อยู่บ้าน ไม่ใช่ว่าดื่มสุราแล้ว อย่าออกไปไหน และอย่าใช้ยานพาหนะ จะไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน” พล.อ.ธีรชัย กล่าว
ด้านพลตำรวจโท ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กำชับให้ ตำรวจนครบาลทั้ง 88 สน. ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ช่วยกันลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของคนขับรถ โดยเฉพาะผู้ที่ขับรถโดยสารสาธารณะ หากตรวจพบก็จะดำเนินตามกฏหมายเด็ดขาดทันที พร้อมยึดใบอนุญาติขับขี่ด้วย
ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หากตรวจพบว่าเมาแล้วขับ ตำรวจสามารถยึดรถได้ทันที และให้มารับรถหลังเทศกาลปีใหม่ โดยมาตราการนี้ จะเริ่มบังใช้ตั้งแต่วันนี้ (24 ธ.ค. 58) เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 4 มกราคม 2559 เพื่อเป็นการซักซ้อมก่อนเข้าห้วง 7 วันอันตราย
พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญญา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า นายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เน้นย้ำให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเต็มที่ โดยใช้กำลังตำรวจกว่า 70,000 นาย ร่วมกับ ทหาร เน้นอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้กับประชาชนที่จะเดินทางในช่วงวันหยุดยาว โดยให้กองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมกับ ทุกสถานีตำรวจ และตำรวจทางหลวง วางแผนระบายรถให้เกิดความเรียบร้อย คาดประชาชนจะเดินทางจำนวนมากช่วงคืนวันที่ 30 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 31 ธันวาคม ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว
พร้อมกับเพิ่มความเข้มการตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดของผู้ขับขี่รถยนต์ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ รวมถึงการดำเนินคดีกับผู้ขับขี่จักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย หากตรวจพบจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โดยตำรวจจะดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน
ส่วนการรักษาปลอดภัยสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ 5 จุดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาทิ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ท่าเตียน เอเชียทีค จะมีการตรวจพื้นที่จุดสูงข่ม และสืบสวนหาข่าวอย่างใกล้ชิด และยืนยันการข่าวขณะนี้ ยังไม่พบการก่อเหตุความวุ่นวายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ไม่มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสหรือกลุ่มก่อการร้ายใดในประเทศไทย