พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. จะนำข้อมูลเพิ่มเติมในการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่มีความไม่โปร่งใสมามอบให้ เพราะไม่ต้องการให้การสอบสวนเจาะจงเฉพาะการเรียกค่าหัวคิวรูปหล่อเท่านั้นว่า นายณัฐวุฒิ อยากมาก็มา ตนไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องพิเศษ เพราะ ศอตช.ทำการตรวจสอบทุจริตเรื่องอื่นๆ ด้วย โดยมีประชาชนมาส่งข้อมูลให้เกือบทุกวันเป็นปกติ ส่วนการตรวจสอบโครงการราชภักดิ์ก็สอบไปตามปกติ ตนไม่ได้สั่งว่าต้องทำอะไรเป็นพิเศษ และได้บอกเจ้าหน้าที่ไปว่า อย่านำประเด็นอะไรมาผูกพัน และไม่นำไปโยงกับการเมือง
ส่วนแกนนำนักศึกษาที่มีข่าวว่าจะมายื่นหลักฐานกับตนนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มา ถ้าจะมาส่งก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา เพราะทางเจ้าหน้าที่จะส่งต่อมาให้ตนอ่านทุกคดี หากเป็นประเด็นตนจะส่งกลับไปให้เจ้าหน้าที่สอบต่อไป จากนี้ตนจะไม่ชี้แจงอะไรอีก แต่ได้สั่งให้หน่วยงานต่างๆ ชี้แจงความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงกลาโหม จะส่งผลสรุปให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในสัปดาห์หน้า และจะมีการแถลงข่าวให้ทราบนั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบในส่วนของกระทรวงกลาโหม เพราะไม่เกี่ยวข้องกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่เป็นอิสระ ใครชี้แจงอะไรต้องมีเหตุผลว่าทำไมชี้แจงอย่างนั้น ซึ่งทุกหน่วยงานมีเหตุผลของตัวเอง ตนจะไปพูดแทนเขาไม่ได้ และไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไร
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ สตง.และ ป.ป.ท. ยังไม่ทราบว่าจะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ ถ้าเร็วได้ก็จะดีต่อทุกฝ่าย แต่ไม่ได้ไปเร่งรัด เพราะบางเรื่องอาจใช้เวลาในการสอบสวนด้วยความรอบคอบ
ส่วนแกนนำนักศึกษาที่มีข่าวว่าจะมายื่นหลักฐานกับตนนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มา ถ้าจะมาส่งก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา เพราะทางเจ้าหน้าที่จะส่งต่อมาให้ตนอ่านทุกคดี หากเป็นประเด็นตนจะส่งกลับไปให้เจ้าหน้าที่สอบต่อไป จากนี้ตนจะไม่ชี้แจงอะไรอีก แต่ได้สั่งให้หน่วยงานต่างๆ ชี้แจงความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงกลาโหม จะส่งผลสรุปให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในสัปดาห์หน้า และจะมีการแถลงข่าวให้ทราบนั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบในส่วนของกระทรวงกลาโหม เพราะไม่เกี่ยวข้องกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่เป็นอิสระ ใครชี้แจงอะไรต้องมีเหตุผลว่าทำไมชี้แจงอย่างนั้น ซึ่งทุกหน่วยงานมีเหตุผลของตัวเอง ตนจะไปพูดแทนเขาไม่ได้ และไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไร
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ สตง.และ ป.ป.ท. ยังไม่ทราบว่าจะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ ถ้าเร็วได้ก็จะดีต่อทุกฝ่าย แต่ไม่ได้ไปเร่งรัด เพราะบางเรื่องอาจใช้เวลาในการสอบสวนด้วยความรอบคอบ