การท่องเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จากฝั่งทางขึ้นด้านด่านเนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี พบนักท่องเที่ยวหลั่งไหลขึ้นมาพักผ่อนรับโซนช่วงลมหนาวเป็นจำนวนมากกว่า 10,000 คน โดยเฉพาะการขึ้นมาพักกางเต้นท์พักแรมค้างคืน ที่ลานกางเต้นท์ ทั้งลำตะคอง และผากล้วยไม้แน่นทั้ง 2 แห่ง จนไม่พอรองรับ โดยในช่วงวันหยุดนี้ได้เปิดลานกางเต้นท์สำรองเขาร่มหรือลานเฮลิคอปเตอร์เพิ่มอีกแห่ง จนยอดนักท่องเที่ยวที่พักแรมค้างที่ลานกางเต้นท์มากกว่า 3,000 คน และอุณหภูมิลดลงมา 14 องศาเซลเซียส
จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่จำนวนมากในช่วงไฮซีซั่นนี้ พบมีการรณรงค์ระวังภัยช้างป่า อาทิ การติดป้านเตือนเมื่อพบช้างป่า ให้อยู่ห่างเกิน30เมตร ไม่บีปแตรรถ ไม่เปิดไฟสูง และการสังเกตอาการช้างป่า หากเครียด เช่น หูกาง หางชี้ งวงม้วนงอ ให้หลีกหนีเป็นต้น ตลอดจนการรณรงค์ มาตราการ 4 ม. ได้แก่ 1.ไม่บีบแตร 2.ไม่ขับรถเร็ว 3.ไม่ทิ้งขยะ และ 4.ไม่ให้อาหารสัตว์ป่า
อย่างไรก็ตาม ยังพบมีการฝ่าฝืน เช่นการให้อาหารสัตว์ป่าปากทางขึ้นที่มีลิงป่ามาดักรอขออาหาร การให้อาหารกวางป่า และพบมีนักท่องเที่ยวทิ้งขยะไม่นำกลับ นอกจากนี้พบมีการส่องสัตว์ป่า ในปริมาณสูงในการชมสัตว์ป่าใกล้ชิด มีรถส่องสัตว์มากกว่า 80 คัน วิ่งบริการเป็นขบวนแถวยาวเหยียด ราวกับมีมหรสพ ซึ่งรบกวนเวลาหากินของสัตว์ป่ายามกลางคืน
จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่จำนวนมากในช่วงไฮซีซั่นนี้ พบมีการรณรงค์ระวังภัยช้างป่า อาทิ การติดป้านเตือนเมื่อพบช้างป่า ให้อยู่ห่างเกิน30เมตร ไม่บีปแตรรถ ไม่เปิดไฟสูง และการสังเกตอาการช้างป่า หากเครียด เช่น หูกาง หางชี้ งวงม้วนงอ ให้หลีกหนีเป็นต้น ตลอดจนการรณรงค์ มาตราการ 4 ม. ได้แก่ 1.ไม่บีบแตร 2.ไม่ขับรถเร็ว 3.ไม่ทิ้งขยะ และ 4.ไม่ให้อาหารสัตว์ป่า
อย่างไรก็ตาม ยังพบมีการฝ่าฝืน เช่นการให้อาหารสัตว์ป่าปากทางขึ้นที่มีลิงป่ามาดักรอขออาหาร การให้อาหารกวางป่า และพบมีนักท่องเที่ยวทิ้งขยะไม่นำกลับ นอกจากนี้พบมีการส่องสัตว์ป่า ในปริมาณสูงในการชมสัตว์ป่าใกล้ชิด มีรถส่องสัตว์มากกว่า 80 คัน วิ่งบริการเป็นขบวนแถวยาวเหยียด ราวกับมีมหรสพ ซึ่งรบกวนเวลาหากินของสัตว์ป่ายามกลางคืน
