นายทามัส วาร์กา นักวิเคราะห์น้ำมันจากบริษัทพีวีเอ็ม ออย แอสโซซิเอทส์ ในกรุงลอนดอน อังกฤษว่า ราคาน้ำมันร่วงในวันนี้ (7 ธ.ค.) ใกล้แตะระดับต่ำสุดของปีนี้ หลังกลุ่มโอเปกเห็นไม่ตรงกันในเรื่องการลดการผลิตเพื่อจำกัดการดิ่งลงของราคา ขณะเดียวกันการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ราคาน้ำมันดิบมีราคาแพงกว่าเดิม ก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปกจบการประชุมเรื่องนโยบายเมื่อวันศุกร์ก่อนโดยไร้ข้อสรุปเรื่องการลดกำลังการผลิต
ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ที่รัฐมนตรีน้ำมันไม่เอ่ยถึงระดับเพดานการผลิตของกลุ่มโอเปก สะท้อนถึงความเห็นที่ไม่ลงรอยกันในบรรดาสมาชิกว่าจะรองรับอย่างไรกับโควตาน้ำมันดิบของอิหร่าน ซึ่งจะกลับมาผลิตน้ำมันดิบเต็มกำลังการผลิตอีกครั้ง หลังชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร สำหรับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ กรุงลอนดอน อังกฤษ ร่วง 38 เซนต์ อยู่ที่ 42.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 09.29 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ ใกล้แตะระดับต่ำสุดของปีนี้คือ 42.23 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดสหรัฐฯซื้อขายที่ 39.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ร่วง 55 เซนต์ ที่ผ่านมากลุ่มโอเปกผลิตน้ำมันดิบร่วมกว่า 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบเกินความต้องการของตลาดระหว่าง 5 แสนบาร์เรลถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะเดียวกันทำให้บริษัทน้ำมันดิบขนาดเล็กหลายแห่งในสหรัฐฯเริ่มประสบปัญหาธุรกิจมีหนี้สินจำนวนมาก
ด้านนายอามิน นัสเซอร์ ซีอีโอของบริษัทซาอุดิ อารัมโก บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบียแถลงในกรุงโดฮา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในวันนี้ แสดงความหวังว่าราคาน้ำมันจะเริ่มปรับฐานตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบจากบรรดาผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกอาจจะเริ่มลดลงมากอย่างต่อเนื่องในช่วงนั้น แต่นายแพทริก ปูยาน ซีอีโอของโทเทล บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส กล่าวในเวทีเดียวกันว่าเขาไม่คาดว่าราคาน้ำมันจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า ระบุว่าขณะนี้ยังมีปริมาณน้ำมันดิบเกินความต้องการซื้ออยู่อีกมาก
ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ที่รัฐมนตรีน้ำมันไม่เอ่ยถึงระดับเพดานการผลิตของกลุ่มโอเปก สะท้อนถึงความเห็นที่ไม่ลงรอยกันในบรรดาสมาชิกว่าจะรองรับอย่างไรกับโควตาน้ำมันดิบของอิหร่าน ซึ่งจะกลับมาผลิตน้ำมันดิบเต็มกำลังการผลิตอีกครั้ง หลังชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร สำหรับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ กรุงลอนดอน อังกฤษ ร่วง 38 เซนต์ อยู่ที่ 42.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 09.29 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ ใกล้แตะระดับต่ำสุดของปีนี้คือ 42.23 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดสหรัฐฯซื้อขายที่ 39.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ร่วง 55 เซนต์ ที่ผ่านมากลุ่มโอเปกผลิตน้ำมันดิบร่วมกว่า 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบเกินความต้องการของตลาดระหว่าง 5 แสนบาร์เรลถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะเดียวกันทำให้บริษัทน้ำมันดิบขนาดเล็กหลายแห่งในสหรัฐฯเริ่มประสบปัญหาธุรกิจมีหนี้สินจำนวนมาก
ด้านนายอามิน นัสเซอร์ ซีอีโอของบริษัทซาอุดิ อารัมโก บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบียแถลงในกรุงโดฮา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในวันนี้ แสดงความหวังว่าราคาน้ำมันจะเริ่มปรับฐานตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบจากบรรดาผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกอาจจะเริ่มลดลงมากอย่างต่อเนื่องในช่วงนั้น แต่นายแพทริก ปูยาน ซีอีโอของโทเทล บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส กล่าวในเวทีเดียวกันว่าเขาไม่คาดว่าราคาน้ำมันจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า ระบุว่าขณะนี้ยังมีปริมาณน้ำมันดิบเกินความต้องการซื้ออยู่อีกมาก