พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการดำเนินการกับกลุ่มนักศึกษาที่จะเดินทางไปเคลื่อนไหวที่อุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ว่า เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ใช่เฉพาะเจ้าหน้าที่เท่านั้น ที่ไม่ต้องการให้ใครมาใช้สถานที่นี้ผิดไปจากวัตถุประสงค์ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้มีความหมายต่อคนไทย เกิดจากแรงศรัทธาของประชาชนร่วมกับหน่วยงานรัฐ จึงอาจไม่เหมาะสมที่จะมีกลุ่มหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดจะมาดำเนินกิจกรรมอะไรที่ผิดวัตถุประสงค์ ขณะนี้สังคมส่วนใหญ่มองว่า เริ่มมีความพยายามของคนบางกลุ่มจะใช้พื้นที่ของอุทยานมาเป็นเครื่องมือทางการแสดงออก โดยเฉพาะกรณีถ้ามีบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวฯ มาแสดงออกถึงความขัดแย้งกันบนพื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ยิ่งดูไม่เหมาะ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดูแลสถานการณ์ให้เกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุด ซึ่งการให้เหตุผลการไปอุทยานฯ ของกลุ่มนักศึกษายังดูไม่ตอบโจทย์ในผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง เชื่อว่าเจ้าหน้าที่คงต้องใช้ดุลพินิจโดยละเอียดก่อนตัดสินใจดำเนินการ ซึ่งถ้าพิจารณาจากตัวบุคคลในกลุ่มส่วนใหญ่เป็นนักเคลื่อนไหวที่มีประวัติกับเจ้าหน้าที่มาแล้วทั้งนั้น ประกอบกับในหลายๆ องค์ประกอบแล้ว ค่อนข้างมีความชัดเจนว่าอาจมีเป้าหมายอื่นแอบแฝงได้
อย่างไรก็ตาม พ.อ.วินธัย ยืนยันว่า ระบบและกระบวนการตรวจสอบในข้อกังวลสงสัยต่างๆ กำลังดำเนินไปอย่างเป็นระบบ ด้วยหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ ถ้าต้องการข้อมูลหรือข้อเท็จจริง เชื่อว่ามีช่องทางอื่นที่เหมาะสมกว่า และจะไม่เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายอีกด้วย และการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ใครหยิบไปใช้ขยายผลในมุมที่ไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน เพราะเชื่อว่ามีคนบางกลุ่มพยายามที่จะฉกฉวยโอกาสนี้ไปใช้ขยายผลตามมุมต่างๆ ที่ตัวเองต้องการ
ขณะที่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวนักศึกษาที่ทำกิจกรรม"นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง" ออกจากสถานีรถไฟบ้านโป่ง จ.ราชบุรี ขึ้นรถบัสทหารออกมานั้น โดย พ.อ.วินธัย ไม่ขอเปิดเผยสถานที่ในการควบคุมตัว แต่ระบุเพียงสั้นๆ ว่า เจ้าหน้าที่จะนำตัวมาพูดคุย และคาดว่าเมื่อพูดคุยเสร็จคาดจึงจะปล่อยตัวกลับบ้าน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดูแลสถานการณ์ให้เกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุด ซึ่งการให้เหตุผลการไปอุทยานฯ ของกลุ่มนักศึกษายังดูไม่ตอบโจทย์ในผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง เชื่อว่าเจ้าหน้าที่คงต้องใช้ดุลพินิจโดยละเอียดก่อนตัดสินใจดำเนินการ ซึ่งถ้าพิจารณาจากตัวบุคคลในกลุ่มส่วนใหญ่เป็นนักเคลื่อนไหวที่มีประวัติกับเจ้าหน้าที่มาแล้วทั้งนั้น ประกอบกับในหลายๆ องค์ประกอบแล้ว ค่อนข้างมีความชัดเจนว่าอาจมีเป้าหมายอื่นแอบแฝงได้
อย่างไรก็ตาม พ.อ.วินธัย ยืนยันว่า ระบบและกระบวนการตรวจสอบในข้อกังวลสงสัยต่างๆ กำลังดำเนินไปอย่างเป็นระบบ ด้วยหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ ถ้าต้องการข้อมูลหรือข้อเท็จจริง เชื่อว่ามีช่องทางอื่นที่เหมาะสมกว่า และจะไม่เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายอีกด้วย และการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ใครหยิบไปใช้ขยายผลในมุมที่ไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน เพราะเชื่อว่ามีคนบางกลุ่มพยายามที่จะฉกฉวยโอกาสนี้ไปใช้ขยายผลตามมุมต่างๆ ที่ตัวเองต้องการ
ขณะที่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวนักศึกษาที่ทำกิจกรรม"นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง" ออกจากสถานีรถไฟบ้านโป่ง จ.ราชบุรี ขึ้นรถบัสทหารออกมานั้น โดย พ.อ.วินธัย ไม่ขอเปิดเผยสถานที่ในการควบคุมตัว แต่ระบุเพียงสั้นๆ ว่า เจ้าหน้าที่จะนำตัวมาพูดคุย และคาดว่าเมื่อพูดคุยเสร็จคาดจึงจะปล่อยตัวกลับบ้าน