นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกประกาศห้ามพนักงานสั่งซื้อและสั่งจองล็อตเตอรี่ตั้งแต่งวด 3 ธ.ค. 58 เป็นต้นไปไม่เช่นนั้นถือว่ามีความผิดตามระเบียบของธนาคารขณะเดียวกันจะตรวจสอบรายชื่อพนักงานที่ลงทะเบียนไว้กับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หากพบว่าบุคคลคนนั้นมีรายชื่อตรงกับพนักงานของธนาคารกรุงไทยจะคัดรายชื่อลงทะเบียนออกทันที ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเพื่อความโปร่งใสในการทำงานและลดข้อครหาว่าพนักงานของธนาคารกรุงไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อสั่งจองล็อตเตอรี่
ทั้งนี้ที่ผ่านมาธนาคารไม่ได้ห้ามพนักงานกรุงไทยลงทะเบียนสั่งซื้อสั่งจองล็อตเตอรี่เหมือนกับพนักงานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และระเบียบการลงทะเบียนสำนักงานสลากฯ ระบุต้องเป็นคนไทยอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป มีแหล่งขายล๊อตเตอรี่ชัดเจน และมีสมุดบัญชีเงินฝากกับธนาคารกรุงไทย พร้อมมีเงื่อนไขว่าใครจองก่อนได้ก่อนอย่างไรก็ตาม ปัจจุบันธนาคารกรุงไทยมีพนักงาน 20,000 กว่าคน และมีสาขาประมาณ 1,200 แห่งทั่วประเทศ
“การสั่งซื้อและสั่งจองผ่านระบบของธนาคารมีความโปร่งใสเนื่องจากมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิดด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบเอทีเอ็มและอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งเปิดให้จองเวลา 8.00 น. ขณะที่สาขาเปิดบริการ 8.30 น.ดังนั้นพนักงานจะไม่สามารถเข้าระบบซื้อและจองได้ก่อนเวลาเปิดจริง และจากข้อมูลล่าสุดพบว่าการสั่งซื้อและจองสลากผ่านระบบเอทีเอ็มมากสุด 86% อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง 12% และสาขา 2% ส่วนกรณีที่ให้การเปิดให้บริการสั่งซื้อ-สั่งจองในเวลาเดียวกันไม่สามารถทำได้ เพราะยิ่งจะทำให้เกิดข้อครหาว่าไม่โปร่งใสได้” นายทรงพล กล่าว
ทั้งนี้ขอเตือนประชาชนทั่วไปที่ต้องการสลากฯ และมีบุคคลมาเสนอตัวว่าสามารถสั่งซื้อและสั่งจองได้ตามจำนวนที่ต้องการทั้งหมดว่าไม่เป็นความจริงเพราะการสั่งซื้อ-จองนั้นได้เพียงคนละ 5 เล่มเท่านั้นและอาจทำให้ประชาชนถูกหลอกลวงและเสียทรัพย์สินได้ หรือหากมีพนักงานของธนาคารเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวสั่งซื้อและสั่งจองสลาก ขอให้รายชื่อและผู้ที่เกี่ยวขอ้งมาทีธนาคารกรุงไทยได้ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือแจ้งที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้หากมีเอกสารครบถ้วน ถ้ามีพบว่าความผิดจริงตามคำร้องเรียน ก็จะลงโทษตามระเบียบของธนาคาร
ทั้งนี้ที่ผ่านมาธนาคารไม่ได้ห้ามพนักงานกรุงไทยลงทะเบียนสั่งซื้อสั่งจองล็อตเตอรี่เหมือนกับพนักงานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และระเบียบการลงทะเบียนสำนักงานสลากฯ ระบุต้องเป็นคนไทยอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป มีแหล่งขายล๊อตเตอรี่ชัดเจน และมีสมุดบัญชีเงินฝากกับธนาคารกรุงไทย พร้อมมีเงื่อนไขว่าใครจองก่อนได้ก่อนอย่างไรก็ตาม ปัจจุบันธนาคารกรุงไทยมีพนักงาน 20,000 กว่าคน และมีสาขาประมาณ 1,200 แห่งทั่วประเทศ
“การสั่งซื้อและสั่งจองผ่านระบบของธนาคารมีความโปร่งใสเนื่องจากมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิดด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบเอทีเอ็มและอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งเปิดให้จองเวลา 8.00 น. ขณะที่สาขาเปิดบริการ 8.30 น.ดังนั้นพนักงานจะไม่สามารถเข้าระบบซื้อและจองได้ก่อนเวลาเปิดจริง และจากข้อมูลล่าสุดพบว่าการสั่งซื้อและจองสลากผ่านระบบเอทีเอ็มมากสุด 86% อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง 12% และสาขา 2% ส่วนกรณีที่ให้การเปิดให้บริการสั่งซื้อ-สั่งจองในเวลาเดียวกันไม่สามารถทำได้ เพราะยิ่งจะทำให้เกิดข้อครหาว่าไม่โปร่งใสได้” นายทรงพล กล่าว
ทั้งนี้ขอเตือนประชาชนทั่วไปที่ต้องการสลากฯ และมีบุคคลมาเสนอตัวว่าสามารถสั่งซื้อและสั่งจองได้ตามจำนวนที่ต้องการทั้งหมดว่าไม่เป็นความจริงเพราะการสั่งซื้อ-จองนั้นได้เพียงคนละ 5 เล่มเท่านั้นและอาจทำให้ประชาชนถูกหลอกลวงและเสียทรัพย์สินได้ หรือหากมีพนักงานของธนาคารเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวสั่งซื้อและสั่งจองสลาก ขอให้รายชื่อและผู้ที่เกี่ยวขอ้งมาทีธนาคารกรุงไทยได้ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือแจ้งที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้หากมีเอกสารครบถ้วน ถ้ามีพบว่าความผิดจริงตามคำร้องเรียน ก็จะลงโทษตามระเบียบของธนาคาร