นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนที่นิยมเที่ยวในป่า ภูเขา ช่วงหน้าหนาว ระวังถูกตัวไรอ่อนกัด ติดโรคไข้รากสาดใหญ่ หรือโรคสครับไทฟัส หลังถูกกัดประมาณ 10-12 วัน จะมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว ตาแดง ปวดกระบอกตา ผู้ป่วยร้อยละ 50 จะพบแผลคล้ายถูกบุหรี่จี้ในจุดที่ถูกไรอ่อนกัด ลักษณะมีสีแดงคล้ำเป็นรอยบุ๋ม ไม่คัน บางรายอาจหายได้เอง แต่บางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและทำให้เสียชีวิตได้ ทั้งนี้ แนะให้ผู้ที่จะไปเดินป่า ควรใส่รองเท้า ถุงเท้าหุ้มปลายขากางเกงไว้ ใส่เสื้อแขนยาวปิดคอ และเหน็บปลายเสื้อเข้าในกางเกง ใช้ยาทากันแมลงกัด หากออกจากป่าแล้วมีอาการป่วยให้รีบพบแพทย์ทันที
ด้านนายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า โรคนี้พบผู้ป่วยได้ตลอดปี มักพบในกลุ่มชาวไร่ ชาวสวน นักล่าสัตว์ นักท่องป่า ทหาร และผู้ที่ออกไปตั้งค่ายในป่า จะพบมากในช่วงฤดูฝน และฤดูหนาว จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคสครับไทฟัส โดยสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ 1 มกราคม 2558 - 11 พฤศจิกายน 2558 ทั่วประเทศ มีรายงานผู้ป่วย 6,098 ราย เสียชีวิต 9 ราย ภาคเหนือมีผู้ป่วยมากที่สุด 3,370 ราย รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,610 ราย
ด้านนายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า โรคนี้พบผู้ป่วยได้ตลอดปี มักพบในกลุ่มชาวไร่ ชาวสวน นักล่าสัตว์ นักท่องป่า ทหาร และผู้ที่ออกไปตั้งค่ายในป่า จะพบมากในช่วงฤดูฝน และฤดูหนาว จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคสครับไทฟัส โดยสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ 1 มกราคม 2558 - 11 พฤศจิกายน 2558 ทั่วประเทศ มีรายงานผู้ป่วย 6,098 ราย เสียชีวิต 9 ราย ภาคเหนือมีผู้ป่วยมากที่สุด 3,370 ราย รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,610 ราย