นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กำลังพิจารณาวิธีการเลือก ส.ส. และที่มาของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการถ่วงดุลตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐ ว่า กรธ.มีเจตนาสำคัญเพื่อให้การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความเหมาะสมกับสภาพสังคมไทย มีระบบการเลือกตั้งที่สุจริตและเป็นธรรม มีกลไกการป้องกันและขจัดการทุจริต ประพฤติมิชอบที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่นักการเมืองออกมาเอะอะโวยวาย โดยมองว่าวิธีการที่ กรธ.เสนอนั้น จะทำให้พรรคตัวเองเสียเปรียบ ทำให้พรรคตัวเองได้รับเลือกตั้งน้อย ถือเป็นการมองแต่ประโยชน์ของพรรคตัวเองมากกว่าประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน เป็นความเห็นแก่ตัวทางการเมือง
นายวันชัย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่าการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องไม่เกรงใจใคร ต้องไม่ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ เอาประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวตั้ง ใครจะได้ประโยชน์เสียประโยชน์อย่าไปสนใจ มุ่งหน้าดำเนินการตามกรอบที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดไว้ โดยเฉพาะประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับสภาพของสังคมไทย ขณะเดียวกัน ต้องมีความมั่นคง ทั้งทางการเมือง และการปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ นี่คือเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญที่ กรธ.จะต้องร่างรัฐธรรมนูญให้เกิดความมั่นคงให้ได้
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญในระยะเปลี่ยนผ่านต้องมีบทมาตราที่กำหนดเวลาของการสมานแผลแห่งการแตกแยกแตกสามัคคี อย่ารีบเร่งเป็นประชาธิปไตยจ๋า เพราะไม่เช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับแหน ที่เมื่อโยนหินเข้าไปก็แตกกระจาย สักพักก็กลับมารวมกันใหม่ เหมือนให้มีการเลือกตั้งในระยะที่จะถึงนี้ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิม การรัฐประหารการปฏิรูปก็ไร้ผล จึงจะต้องมีกลไกประคับประคองให้ประเทศเข้าที่เข้าทางจนแน่ใจว่าจะไม่กลับมาห้ำหั่นกันอีก แล้วค่อยเป็นประชาธิปไตยแบบสากล ในหลักการ กรธ.ควรร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับสภาพสังคมไทยและเป็นที่ยอมรับของสากล แต่ควรมีบทเฉพาะกาลในระยะเปลี่ยนผ่านและวางรากฐานให้เกิดความมั่นคง คือในระยะ 4 สี่ปีแรกที่มีการเลือกตั้งนี้ ให้มี ส.ส.เขต 300 คน ให้มีการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิและบุคคลจากกลุ่มองค์กรผู้มีพลังอำนาจทางสังคมมาเป็น ส.ว.อีก 200 คน ให้รัฐสภาเป็นคนเลือกนายกรัฐมนตรี ด้วยวิธีการนี้ ก็จะทำให้การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองมีความมั่นคง ทั้งมีเวลาเยียวยาสมานแผลแห่งความแตกแยกได้ ดังนั้นจึงต้องมีเวลาทิ้งช่วงในระยะเบื้องต้น
นายวันชัย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่าการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องไม่เกรงใจใคร ต้องไม่ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ เอาประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวตั้ง ใครจะได้ประโยชน์เสียประโยชน์อย่าไปสนใจ มุ่งหน้าดำเนินการตามกรอบที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดไว้ โดยเฉพาะประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับสภาพของสังคมไทย ขณะเดียวกัน ต้องมีความมั่นคง ทั้งทางการเมือง และการปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ นี่คือเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญที่ กรธ.จะต้องร่างรัฐธรรมนูญให้เกิดความมั่นคงให้ได้
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญในระยะเปลี่ยนผ่านต้องมีบทมาตราที่กำหนดเวลาของการสมานแผลแห่งการแตกแยกแตกสามัคคี อย่ารีบเร่งเป็นประชาธิปไตยจ๋า เพราะไม่เช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับแหน ที่เมื่อโยนหินเข้าไปก็แตกกระจาย สักพักก็กลับมารวมกันใหม่ เหมือนให้มีการเลือกตั้งในระยะที่จะถึงนี้ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิม การรัฐประหารการปฏิรูปก็ไร้ผล จึงจะต้องมีกลไกประคับประคองให้ประเทศเข้าที่เข้าทางจนแน่ใจว่าจะไม่กลับมาห้ำหั่นกันอีก แล้วค่อยเป็นประชาธิปไตยแบบสากล ในหลักการ กรธ.ควรร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับสภาพสังคมไทยและเป็นที่ยอมรับของสากล แต่ควรมีบทเฉพาะกาลในระยะเปลี่ยนผ่านและวางรากฐานให้เกิดความมั่นคง คือในระยะ 4 สี่ปีแรกที่มีการเลือกตั้งนี้ ให้มี ส.ส.เขต 300 คน ให้มีการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิและบุคคลจากกลุ่มองค์กรผู้มีพลังอำนาจทางสังคมมาเป็น ส.ว.อีก 200 คน ให้รัฐสภาเป็นคนเลือกนายกรัฐมนตรี ด้วยวิธีการนี้ ก็จะทำให้การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองมีความมั่นคง ทั้งมีเวลาเยียวยาสมานแผลแห่งความแตกแยกได้ ดังนั้นจึงต้องมีเวลาทิ้งช่วงในระยะเบื้องต้น