ชาวนาในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังฝนทิ้งช่วงนานกว่า 1 เดือน ทำให้ผืนดินแตกระแหง ขาดน้ำกว่า 1,000 ไร่ นางสมจิต ดาเชิงเขา วัย 65 ปี ชาวนาดอนถ่อน ต.บ้านเอื้อง กล่าวว่า ตนเองปลูกข้าวไว้ 43 ไร่ เป็นข้าวเหนียว กข 6 แต่หลังจากฝนทิ้งช่วงนานนับเดือน ส่งผลให้ขณะนี้เสียหายไปแล้ว 20 ไร่ จึงไปขอความช่วยเหลือจาก อบต.โพนสว่าง ให้นำรถดับเพลิงมาฉีดน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว
ขณะที่ นายชาติชาย หาทำ นายก อบต.โพนสว่าง ระบุว่า มีชาวบ้านมาร้องขอรถดับเพลิงจาก อบต.ที่มีแค่ 1 คัน ไปฉีดหล่อเลี้ยงต้นข้าว แต่มีคิวร่วม 100 ราย แต่ละวันบรรทุกน้ำไปฉีดเช้าและเย็นวันละ 4-5 รอบ เนื่องจากบริเวณที่นาของชาวบ้านไม่มีระบบชลประทาน และไม่สามารถเจาะบ่อบาดาลนำน้ำได้ดินขึ้นมาใช้ได้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบมีที่นาชาวบ้านเสียหายกว่า 1,000 ไร่แล้ว
ด้าน นายวิสูตร เสนานิคม นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร อ.ศรีสงคราม กล่าวว่า พื้นที่ทำนาใน อ.ศรีสงคราม มีทั้งหมด 169,288 ไร่ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.โพนสว่าง และ ต.นาเดื่อ จะได้ออกสำรวจเพื่อรายงานให้ทางอำเภอทราบ ทั้งนี้ ได้ประสาน อปท.ในพื้นที่นำรถดับเพลิงไปช่วยฉีดบรรเทา ก่อนจะเร่งช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป
ขณะที่ นายชาติชาย หาทำ นายก อบต.โพนสว่าง ระบุว่า มีชาวบ้านมาร้องขอรถดับเพลิงจาก อบต.ที่มีแค่ 1 คัน ไปฉีดหล่อเลี้ยงต้นข้าว แต่มีคิวร่วม 100 ราย แต่ละวันบรรทุกน้ำไปฉีดเช้าและเย็นวันละ 4-5 รอบ เนื่องจากบริเวณที่นาของชาวบ้านไม่มีระบบชลประทาน และไม่สามารถเจาะบ่อบาดาลนำน้ำได้ดินขึ้นมาใช้ได้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบมีที่นาชาวบ้านเสียหายกว่า 1,000 ไร่แล้ว
ด้าน นายวิสูตร เสนานิคม นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร อ.ศรีสงคราม กล่าวว่า พื้นที่ทำนาใน อ.ศรีสงคราม มีทั้งหมด 169,288 ไร่ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.โพนสว่าง และ ต.นาเดื่อ จะได้ออกสำรวจเพื่อรายงานให้ทางอำเภอทราบ ทั้งนี้ ได้ประสาน อปท.ในพื้นที่นำรถดับเพลิงไปช่วยฉีดบรรเทา ก่อนจะเร่งช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป