วันนี้ (30 ต.ค.2558) เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายอาเดม คารารัก และนายเมียไรลี ยูซูฟู ผู้ต้องหาร่วมกันวางระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มาขออำนาจศาลทหารกรุงเทพฝากขังระหว่างที่การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ และอัยการอยู่ระหว่างการตรวจสำนวนคดีเพื่อรอสั่งฟ้อง โดยนายเมียไรลี จะถูกขอฝากขังเป็นผลัดที่ 6 ส่วนนายอาเด็มจะขอฝากขังเป็นผลัดที่ 7 ซึ่งเป็นผลัดสุดท้าย
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนถูกแจ้งข้อหารวม 7 ข้อหา คือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันทำระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพกพาอาวุธระเบิดไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำสำนวนคดีกว่า 10,000 แผ่น รวม 40 แฟ้ม ส่งให้อัยการศาลทหารกรุงเทพพิจารณาสั่งฟ้องแล้ว โดยสำนวนคดีแบ่งเป็น 4 สำนวน ตามท้องที่เกิดเหตุประกอบด้วย สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี , ลุมพินี , หนองจอก และยานนาวา โดยยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เบื้องต้นได้สอบปากคำพยานในคดีไปกว่า 1,000 คน ขณะที่ศาลกำชับให้สืบพยานต่อเนื่องรวมทั้งใช้ล่ามแปลภาษาคนเดิม
นายอาเด็ม เหลือเวลาการฝากขังระหว่างการสอบสวนอีกเพียง 12 วัน หรือถึงวันที่ 11 พ.ย.นี้ ก็จะครบกำหนด ซึ่งหากอัยการสั่งฟ้องคดีไม่ทัน ก็จะไม่มีอำนาจควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนถูกแจ้งข้อหารวม 7 ข้อหา คือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันทำระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพกพาอาวุธระเบิดไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำสำนวนคดีกว่า 10,000 แผ่น รวม 40 แฟ้ม ส่งให้อัยการศาลทหารกรุงเทพพิจารณาสั่งฟ้องแล้ว โดยสำนวนคดีแบ่งเป็น 4 สำนวน ตามท้องที่เกิดเหตุประกอบด้วย สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี , ลุมพินี , หนองจอก และยานนาวา โดยยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เบื้องต้นได้สอบปากคำพยานในคดีไปกว่า 1,000 คน ขณะที่ศาลกำชับให้สืบพยานต่อเนื่องรวมทั้งใช้ล่ามแปลภาษาคนเดิม
นายอาเด็ม เหลือเวลาการฝากขังระหว่างการสอบสวนอีกเพียง 12 วัน หรือถึงวันที่ 11 พ.ย.นี้ ก็จะครบกำหนด ซึ่งหากอัยการสั่งฟ้องคดีไม่ทัน ก็จะไม่มีอำนาจควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้