พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงรายละเอียดการกระทำผิดของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง กับพวก ในความผิดฐานหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยระบุว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาในคดีนี้มีทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย นายสุริยัน นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ เลขาส่วนตัว และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด ร่วมกันแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงรวม 13 คดี อาทิ ร่วมกันแอบอ้างนำการ์ดขอบคุณในกิจกรรม bike for mom ปั่นเพื่อแม่ ไปให้บริษัทเอกชน แอบอ้างเบื้องสูงจัดทำสิ่งของและเรียกรับผลประโยชน์จากภาคเอกชน มีและตั้งเครื่องรับส่งวิทยุโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนและอาวุธสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝากเป็นอุทาหรณ์ หากพบบุคคลใดแอบอ้าง จะดำเนินคดีถึงที่สุด พร้อมยืนยันยังไม่พบว่า พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา สบ 10 เข้าไปเกี่ยวข้องในคดี และไม่ได้มีการออกหมายจับ หรือเข้าตรวจค้นบ้านพัก รวมทั้งยังไม่ได้รับหนังสือลาออกตามที่มีกระแสข่าว
ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติม แต่ยืนยันว่ามีผู้เกี่ยวข้องมากกว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะเครือญาติของหมอหยอง ที่มีการโอนเงินเข้าบัญชี รวมถึงผู้มีส่วนร่วมรู้เห็นให้สารวัตรเอี๊ยด ครอบครองอาวุธปืน วิทยุสื่อสารจำนวนมาก และยักยอกของกลางในคดีของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยได้มีการเรียกบริษัทเอกชนบางส่วนมาสอบสวนแล้ว เชื่อว่าจะสามารถตรวจสอบคดีได้ทั้งหมดภายใน 2 - 3 เดือน
ขณะที่ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงการสอบสวนตำรวจในสังกัด 13 คน ที่มีคำสั่งช่วยราชการก่อนหน้า อยู่ระหว่างตรวจสอบความเกี่ยวข้องในคดี เบื้องต้นพบว่า สารเอี๊ยด เป็นหัวหน้าตำรวจกลุ่มนี้ พร้อมยืนยันว่าพฤติการณ์ของหมอหยอง เมื่อได้ทรัพย์สินไป มีเจตนาซ่อนเร้น โดยโอนไปให้เครือญาติ และบางส่วนไหวตัวและพยายามทำลายข้อมูล ซึ่งเจ้าหน้าที่เทคนิคอยู่ระหว่างการกู้ข้อมูล
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝากเป็นอุทาหรณ์ หากพบบุคคลใดแอบอ้าง จะดำเนินคดีถึงที่สุด พร้อมยืนยันยังไม่พบว่า พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา สบ 10 เข้าไปเกี่ยวข้องในคดี และไม่ได้มีการออกหมายจับ หรือเข้าตรวจค้นบ้านพัก รวมทั้งยังไม่ได้รับหนังสือลาออกตามที่มีกระแสข่าว
ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติม แต่ยืนยันว่ามีผู้เกี่ยวข้องมากกว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะเครือญาติของหมอหยอง ที่มีการโอนเงินเข้าบัญชี รวมถึงผู้มีส่วนร่วมรู้เห็นให้สารวัตรเอี๊ยด ครอบครองอาวุธปืน วิทยุสื่อสารจำนวนมาก และยักยอกของกลางในคดีของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยได้มีการเรียกบริษัทเอกชนบางส่วนมาสอบสวนแล้ว เชื่อว่าจะสามารถตรวจสอบคดีได้ทั้งหมดภายใน 2 - 3 เดือน
ขณะที่ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงการสอบสวนตำรวจในสังกัด 13 คน ที่มีคำสั่งช่วยราชการก่อนหน้า อยู่ระหว่างตรวจสอบความเกี่ยวข้องในคดี เบื้องต้นพบว่า สารเอี๊ยด เป็นหัวหน้าตำรวจกลุ่มนี้ พร้อมยืนยันว่าพฤติการณ์ของหมอหยอง เมื่อได้ทรัพย์สินไป มีเจตนาซ่อนเร้น โดยโอนไปให้เครือญาติ และบางส่วนไหวตัวและพยายามทำลายข้อมูล ซึ่งเจ้าหน้าที่เทคนิคอยู่ระหว่างการกู้ข้อมูล